ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ในไต้หวันเพิ่มเติมได้จากลิงค์ข้างล่างนี้ค่ะ
เป็นหมู่บ้านชนเผ่าพื้นเมืองที่อยู่ในเมืองนิวไทเป (New Taipei City)
คนไต้หวันและนักท่องเที่ยวนิยมมาแช่น้ำแร่ จิบน้ำชา เดินป่า เดินตลาดโบราณกัน
วิธีการเดินทางจากไทเปมาที่อูไหลนั้นไม่ยากเลย นั่นคือ
1. นั่งรถบัสสาย 849 จาก Taipei Main Station, Exit M8 รวดเดียวขึ้นไปถึงที่อูไหล
ระยะเวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง
วิธีการนี้ดีตรงที่ เราได้ขึ้นรถบัสจากต้นๆ ทางเลย มีที่นั่งแน่นอน
พิกัดขึ้นรถบัสจากไทเปเมนสเตชั่น : from Taipei Main Station to Wulai
หรือ
2. นั่งรถไฟฟ้ามาลงที่ MRT Xindian (G01) แล้วต่อรถบัสสาย 849 ขึ้นไปที่อูไหล
ระยะเวลาเดินทางจาก MRT Xindian ประมาณ 40 นาที
แต่อย่าลืมบวกเวลาเดินทางจากสถานีรถไฟฟ้าต้นทางมาถึงสถานีด้วยนะ
วิธีการนี้ช่วยให้ประหยัดเวลาในการเดินทาง แต่จุดขึ้นรถบัสเป็นช่วงปลายๆ สาย
ถ้าเป็นช่วงเทศกาลหรือวันหยุดที่มีนักท่องเที่ยวเยอะ อาจจะไม่มีที่นั่ง
พิกัดขึ้นรถบัสจาก MRT Xindian : Bus from MRT Xindian to Wulai
เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศช่วงหน้าหนาว
เราก็เลยเลือกจองแพคเกจจาก KKday มาแช่น้ำแร่คลายหนาวที่อูไหลสักหน่อย
แพคเกจของเราคือ
Volando Wulai Private Hot Spring with Set Meal for 2
ราคาเริ่มต้นที่ NT$1,506 (1,700THB) (ช่วงหน้าหนาวราคาแพงขึ้น)
ในแพคเกจนี้รวมค่าห้องส่วนตัวสำหรับแช่น้ำแร่ 1 ชม.
และอาหารกลางวันสำหรับ 2 คน
หากใครสนใจกดเข้ามาดูรายละเอียดที่ลิงค์นี้ได้เลย
Volando Urai Spring Spa & Resort with Set Meal or Afternoon Tea for Two
จริงๆ แล้วยังมีแพคเกจอื่นๆ ที่น่าสนใจอีก ลองเข้าไปดูเพิ่มเติมได้จาก
เว็บไซต์ของ www.kkday.com แล้ว search คำว่า wulai ก็ได้
ที่นี่มีรถรับส่งจากสถานีรถไฟฟ้า MRT Xindian ด้วยนะ เที่ยวละ NT$50
หากต้องการใช้บริการ ติดต่อกับทางโรงแรมโดยตรงได้เลย
รถรับส่งมีเป็นรอบๆ เช็คได้จากที่นี่ :
วันนี้ (2/1/17) เราเลือกมาแช่น้ำแร่ในช่วงสายๆ เพื่อจะได้ทันมื้อกลางวันพอดี
โดยใช้บริการรถรับส่งของโรงแรมจาก MRT Xindian รอบแรก 09.30 น.
ในเว็บไซต์บอกไว้ว่า ให้ถึงก่อนเวลาสัก 10 นาที รถจะจอดอยู่แถวหน้า Family Mart
จาก MRT Xindian ใช้เวลาเดินทางต่อประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว
โรงแรมนี้อยู่ระหว่างทางที่จะไป Wulai Old Street
มาถึงทำการเช็คอินที่เคาน์เตอร์ก่อนเลย จากนั้นพนักงานจะพามาที่ห้องแช่น้ำแร่
ตรงนี้เป็นห้องส่วนตัว สำหรับ 2 คน ให้เวลาในการแช่ 1 ชม.
เค้าจะโทรบอกให้เราเตรียมตัวก่อนหมดเวลา 10 นาที
(ถ้าไม่อยากแช่ในห้องส่วนตัวแบบนี้ ก็ยังมีห้องรวมด้วย ค่าบริการถูกกว่า)
ในห้องมีอุปกรณ์อาบน้ำให้พร้อมเลย ทั้งยาสระผม ครีมนวด และสบู่
(รู้งี้ตอนเช้าไม่น่าอาบน้ำเต็มสูตรมาก่อนเลย ^^)
น้ำแร่ที่อูไหลเป็นแบบไร้สี ไร้กลิ่น อย่างนี้ดีหน่อย แช่ได้นาน
แต่ถ้าที่ซินเป่ยโถว (Xin Beitou) กลิ่นกำมะถันจะแรงนิดนึง
เปิดน้ำร้อนผสมน้ำเย็นให้อุ่น เปิดผ้าม่าน แช่น้ำแร่ มองวิวเพลินๆ 1 ชม.ผ่านไปแบบไม่รู้ตัว
ตอนที่ลุกขึ้นมาแต่งตัว เพิ่งไปเห็นป้ายตรงข้างโต๊ะเครื่องแป้งว่า
ไม่ทันแล้ววววว >_<
ได้เวลาอาหารกลางวันตอนช่วง 11 โมงพอดีเลย
จากห้องที่แช่น้ำแร่ เดินขึ้นชั้น 2 มา จะเจอห้องอาหารสวยๆ กระจกกว้างๆ เห็นวิวเต็มๆ
ได้นั่งริมหน้าต่าง กินไปชื่นชมธรรมชาติสีเขียวๆ ไปพอดีเลย
อาหารเป็นแบบ full course ทั้งคาว-หวาน พนักงานจะคอยเสิร์ฟให้ทีละจาน
ก็หน้านั้นเคยรู้สึกว่า อาหารโรงแรมหาอร่อยยากจังเลย
แต่ที่นี่ทำให้เปลี่ยนความคิดไปเลย เค้าใช้วัตถุดินที่ดีและมีคุณภาพ
ชุดนี้อิ่มกำลังดีสำหรับ 1 คน
จากโรงแรมหากต้องการไปเที่ยวที่ Wulai Old Street ต้องเดินไปอีกประมาณ 10 นาที
(ทางโรงแรมไม่มีรถรับส่ง)
โชคดีว่าวันนั้นอากาศกำลังสบาย เดินไป ถ่ายรูปไป พอชิลด์ได้อยู่
ไม่ค่อยคึกคักเหมือนเมื่อก่อน
เนื่องจาก 2 ปีนี้โดนไต้ฝุ่นถล่มอย่างหนัก ได้รับความเสียหายทั้งบ้านเรือนและถนนหนทาง
แต่ดีอยู่อย่างตรงที่เราเดินเที่ยวได้แบบสบายๆ ไม่แออัดยัดเหยียด
นี่ขนาดเป็นวันที่ 2 ของปี และเป็นช่วงวันหยุดของไต้หวัน คนก็ไม่เยอะเท่าไหร่
มีร้านอาหารให้เลือกฝากท้องกันเยอะมาก สั่งไม่เป็นก็ดูรูป ชี้ๆ เอาได้เลย
เรายังไม่เคยลองชิมอาหารแถวนี้นะ ไม่รู้ว่าอร่อยรึเปล่า ^^
เมนูเด็ดที่เค้าบอกว่า มาถึงอูไหลแล้วไม่ค่อยพลาด
นั่นคือ “กุนเชียงไต้หวัน” หรือภาษาจีนเรียกว่า “เซียงฉาง” ของที่นี่ทำจากเนื้อหมูป่า
มี 2 ร้านอยู่ตรงข้ามกัน แต่ร้านฝั่งขวามือคนเข้าแถวเยอะกว่า
ครั้งก่อนมากินแล้ว รู้สึกว่าไม่แตกต่างจากร้านทั่วไปอ่ะ
ตรงสุดถนนโบราณยังเดินต่อไปถึงน้ำตก และหมู่บ้านชนเผ่าได้อีก
เมื่อก่อนนั้นมีรถรางเล็กๆ ให้บริการ แต่ตอนนี้ปิดซ่อมอยู่
ก็ตั้งแต่ตอนโดนไต้ฝุ่นครั้งใหญ่โน่นล่ะ
(เดี๋ยวมีรูปให้ดูตอนท้าย)
เวลามีน้อย เราจึงเดินกลับมานั่งเล่นแถวๆ ริมธารตรงทางเข้าถนนโบราณแทน
ตรงส่วนนี้สามารถลงไปเดินเล่น หรือแช่น้ำแร่ก็ได้
เป็นแบบเข้าถึงธรรมชาติจริงๆ เลยนะเนี้ย
เดินเข้าไปไกลๆ ตรงโน้น เค้ามีบ่อน้ำแร่ให้นั่งแช่เท้า
หรือจะเปลี่ยนเป็นชุดว่ายน้ำแล้วลงไปแช่ทั้งตัวก็ได้
(ถ่ายรูปมาด้วย แต่ติดผู้ชายใส่กางเกงในตัวเดียว คิดว่าไม่เหมาะสมแน่ๆ ถ้าเอารูปมาลง)
ช่วงนั้นเรียกว่า น้ำเป็นสีมรกตจริงๆ
เหมือนเป็นสถานที่ยอดฮิตของคนไต้หวันในช่วงฤดูหนาวแบบนี้เลย
อันนี้เป็นรถรางเล็กๆ ที่เคยให้บริการมาถึงน้ำตกอูไหล และหมู่บ้านชนเผ่า
ตอนนั้นค่าบริการเที่ยวละ NT$50 ทำให้ประหยัดแรงเดินขึ้นเขาได้เยอะเลย
แถวน้ำตกอูไหลนี้ เป็นอีกหนึ่งจุดชมซากุระสวยๆ ของไต้หวันด้วย
ซึ่งดอกซากุระจะบานประมาณต้นเดือนมีนาคมของทุกปี
แต่ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละปีด้วย ถ้าอากาศหนาวมากก็จะบานช้า
ป้ายรถบัสสาย 849 ที่รอนั่งกลับไป MRT Xindian หรือ ไทเป
เมื่อก่อนคนรอจนล้นออกมาข้างนอกเลย
แต่รถบัสมีให้บริการอยู่เรื่อยๆ ประมาณ 15-30 นาที/คัน
ใช้บัตร EasyCard แตะจ่ายเงินได้เลย
ระหว่าง MRT Xinding – Wulai ค่ารถ NT$15
จาก MRT Xindian เดินมาตรงฝั่งที่ติดริมแม่น้ำ
มีตลาดของกินอยู่ด้านข้าง บอกไว้เผื่อใครนั่งรถบัสลงมาเหนื่อยๆ แล้วจะหาของกิน
ตรงส่วนของ Bitan (ปี้ถัน) เป็นสวนสาธารณะริมน้ำขนาดใหญ่
มีสะพานแขวนให้เดินข้ามไปยังฝั่งตรงข้าม
มีถนนกว้างๆ ให้ปั่นจักรยานเลียบริมแม่น้ำ
มีเรือเป็ดให้ถีบไปรับลมเย็นๆ กลางแม่น้ำด้วย
เราว่า Wulai – Bitan 2 ที่นี้ จัดโปรแกรมเที่ยวไทเปใน 1 วันได้สบายๆ เลย
พอเย็นๆ ดึกๆ หน่อย นั่งรถไฟฟ้าสายสีเขียวจาก MRT Xindian (G01)
→ MRT Gongguang (G07) เดินตลาดกลางคืน Gongguan Night Market
ช้อปปิ้งรองเท้าผ้าใบราคาถูกก็ได้ ตลาดนี้มีนมไข่มุกลุงแว่นเจ้าดังอยู่ด้วย
陳三鼎黑糖粉圓鮮奶專賣店 Chen San Ding Bubble Tea
→ MRT Taipower Building (G08) มีตลาดกลางคืนซือต้า (Shida Night Market)
ตลาดกลางคืนที่เน้นขายของแนววัยรุ่น เพราะเป็นแหล่งของนักศึกษามหาวิทยาลัย
→ MRT Ximen (G12) ตรงนี้นักท่องเที่ยวคนไทยรู้จักกันดี
เพราะเป็นที่ตั้งของซีเหมินติง (Ximending) อารมณ์ประมาณสยามสแควร์บ้านเรานั่นเอง
→ MRT Songshan (G19) หรือจะนั่งรถไฟฟ้ามาสุดสายที่สถานีนี้
เพื่อเดินเที่ยวตลาดกลางคืนชื่อดัง Raohe Night Market แหล่งรวมของกินอร่อยๆ ก็ได้
ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ในไต้หวันเพิ่มเติมได้จากลิงค์ข้างล่างนี้ค่ะ
หากมีข้อสงสัย ฝากคำถามได้ที่แฟนเพจ
หรือ Line Official : @1000MilesJourney ค่ะ