ตอนนี้ค่าตั๋วเครื่องบินจากไทยไปไต้หวันก็ไม่ได้แพงมากมายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว
และถ้าซื้อตั๋วตอนมีโปรโมชั่นด้วยแล้ว ราคาก็ยิ่งถูกแสนถูก
สายการบินแบบประหยัด (Low Cost Airlines) เริ่มต้นที่ 4,000 บาท++ (ไม่รวมโหลดกระเป๋า เลือกที่นั่ง และอาหาร)
สายการบินที่ให้บริการเต็มรูปแบบ (Full Service Airlines) เริ่มต้นที่ 7,500 บาท++ เท่านั้นเอง
ปัจจุบันสายการบินที่ให้บริการบินตรงกรุงเทพ-ไต้หวัน มี 6 สายการบินด้วยกัน
แบ่งเป็น Full Service Airlines หรือสายการบินที่ให้บริการเต็มรูปแบบ
เริ่มต้นเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ (BKK) ไปยังสนามบินเถาหยวน (ไทเป) (TPE)
(คลิกที่ชื่อสายการบินเพื่อเข้าสู่เว็บไซต์จองตั๋วเครื่องบิน)
2. ไชน่าแอร์ไลน์ (China Airlines)
4. สตาร์ลักซ์ แอร์ไลน์ (Starlux Airlines)
5. เวียดเจ็ทแอร์ (Vietjet Air) – lowcost
และ Low Cost Airlines สายการบินต้นทุนต่ำ
เริ่มต้นเดินทางจากสนามบินดอนเมือง (DMK) ไปยังสนามบินเถาหยวน (ไทเป) (TPE)
5. ไทเกอร์แอร์ไต้หวัน (TigerAir Taiwan)
เมื่อได้ตั๋วเครื่องบินมาแล้ว
เพราะเราไม่มีทางรู้ล่วงหน้าเลยว่า จะเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือไม่คาดฝันระหว่างการเดินทางหรือไม่
อย่างน้อยๆ มีประกันไว้ก่อน ก็อุ่นใจกว่า
ถ้าได้ติดตามข่าวสาร จะต้องเคยผ่านหูผ่านตามาบ้างล่ะ
ที่นักท่องเที่ยวคนไทยเกิดเจ็บป่วยระหว่างการเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ แต่ไม่ได้ทำประกันเอาไว้
ทำให้ต้องจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลเป็นหลักแสนหลักล้านบาทกันเลยทีเดียว
และเราเองก็เคยไม่สบายช่วงที่กำลังเที่ยวอยู่ในไต้หวันด้วย
ยิ่งทำให้ตระหนัก และให้ความสำคัญเกี่ยวกับการทำประกันภัยการเดินทางเป็นอย่างมาก
ทำประกันภัยการเดินทางกับ Chubb กดลิงก์นี้ได้เลย >>> Chubb Travel Insurance
ทั้งนี้ อย่าลืมอ่านรายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไข และข้อยกเว้นของประกันภัยแต่ละแผนด้วย
ว่าความคุ้มครองนั้นๆ ครอบคลุมถึงเรื่องอะไรบ้าง
รายละเอียดปลีกย่อยอาจจะดูเยอะสักหน่อย แต่ว่ามันจำเป็นมากๆ
มีการคุ้มครองเที่ยวบินล่าช้าด้วย บางเจ้า 8 ชม. บางเจ้า 6 ชม.
นอกจากนี้ยังคุ้มครองกระเป๋าเดินทางด้วย เผื่อกระเป๋าเสียหายหรือพังขึ้นมา ก็ยังเคลมประกันได้อีก
เมื่อมีประกันภัยการเดินทางไว้อุ่นใจแล้ว เรามาแพลนเที่ยวให้สบายใจกันต่อดีกว่า
หากอยากเที่ยวให้ทั่วไต้หวัน ควรมีเวลาอย่างน้อยๆ 10-15 วัน
เพราะระบบขนส่งมวลชนที่สะดวกและเชื่อมโยงไปทั่วทั้งเกาะไต้หวัน
ทำให้เราวางแผนการเดินทางได้อย่างไม่ยุ่งยาก
แต่สำหรับคนที่มีเวลาน้อย และอยากมาเที่ยวไต้หวันนั้น ก็ไม่ใช่ปัญหา
สามารถจัดโปรแกรมได้ตามวันเวลาที่สะดวก เริ่มต้นรู้จักเกาะมันเทศแห่งนี้ไปทีละเล็กทีละน้อยก่อนก็ได้
เชื่อว่ายังไงก็ต้องมีครั้งต่อๆ ไปตามมาแน่นอน เพราะเที่ยวไต้หวันครั้งเดียวไม่พอจริงๆ
เริ่มต้นสัมผัสบรรยากาศของเมืองไทเปจากมุมสูงด้วยการนั่งกระเช้าลอยฟ้าเมาคง
ค่านั่งกระเช้าก็ถูกแสนถูก สุดสายแค่ NT$120 กับระยะทาง 4.03 กม.
ระหว่างนี้หากเป็นวันที่อากาศแจ่มใส จะเห็นตึกไทเป 101 ด้วย
วิธีการเดินทาง : MRT Taipei Zoo (BR01) ทางออก 2 แล้วเดินอีก 300 เมตรมาที่จุดขึ้นกระเช้า
Note : กระเช้าลอยฟ้าลอยคง ปิดวันจันทร์ แต่ยังสามารถนั่งรถบัสขึ้นไปได้ ส่วนอื่นๆ ยังเที่ยวได้ตามปกติ
ช่วงบ่ายมาชื่นชมกับตึกไทเป101 ในระยะประชิดกันต่อ
ตึกไทเป101 เป็นแลนด์มาร์คของเมืองไทเป เคยได้ชื่อว่าเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก
ขึ้นลิฟท์ที่เร็วที่สุดในโลกขึ้นไปชมวิวบนชั้น 89 ค่าเข้า NT$600
หรือจะเดินเล่นภายในตึกก็ได้ ที่นี่เป็นศูนย์รวมของร้านอาหารและห้างสรรพสินค้า
วิธีการเดินทาง : MRT Taipei101 / World Trade Center (R03) ทางออก 4
ช่วงเย็นอิ่มเอิ่มกับภาพของตึกไทเป 101 ให้เต็มที่ ด้วยการเดินขึ้นเขาเซี่ยงซัน
หรือคนไทยเรียกว่า เขาช้าง เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม
ระยะเวลาเดินขึ้นเขาประมาณ 30 นาที ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับพละกำลังของแต่ละคนด้วย
Note: ภาพมุมสูงของตึกไทเป101 ที่เราเห็นกัน ส่วนใหญ่ก็ถ่ายจากที่เซี่ยงซันนี่ล่ะ
วิธีการเดินทาง : MRT Xiangshan (R02) ทางออก 2 เดินต่อประมาณ 450 เมตรถึงทางเดินขึ้นเขา
ลงจากเขาแล้วมาเติมเต็มกระเพาะอาหารที่ตลาดกลางคืนทงฮั่ว
ที่นี่เป็นตลาดกลางคืนที่คนท้องถิ่นนิยมมาเดินเล่น และกินอาหารเย็นกัน
มีหลากหลายเมนูพื้นเมือง เช่น ข้าวเหนียวห่อกุนเชียง และบัวลอยในน้ำเชื่อมเกสรดอกลำใย เป็นต้น
วิธีการเดินทาง : MRT Xinyi Anhe (R04) ทางออก 3
การเข้าชมโบราณวัตถุ และศิลปกรรมต่างๆ ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกู้กงนั้นควรมาถึงตั้งแต่เช้า
นักท่องเที่ยวยังน้อยอยู่ ทำให้เดินชมได้สบายๆ ไม่เบียดเสียดกัน
วัตถุโบราณที่อยู่ในกู้กงนั้นมีมากกว่า 690,000 ชิ้น
โดยขนย้ายมาจากประเทศจีนเมื่อครั้งพรรคก๊กมินตั๋งได้อพยพมาที่ไต้หวัน
วิธีการเดินทาง : MRT Shilin (R16) ทางออก 1 นั่งรถบัสสาย R30 ต่อมาที่นี่
เวลาทำการ : วันอาทิตย์-พฤหัสบดี เวลา 08.30 – 18.30 น. วันศุกร์-เสาร์ เวลา 08.30 – 21.00 น.
ค่าเข้าชม : NT$350
บ่ายๆ ออกมาเดินเล่น สัมผัสบรรยากาศริมทะเลที่ตั้นสุ่ยเมืองท่าโรแมนติค
คนไต้หวันนิยมมาเดินเล่นในวันหยุดสุดสัปดาห์ มีร้านรวงขายของมากมาย รวมถึงร้านอาหารด้วย
อาหารขึ้นชื่อของตั้นสุ่ยคือ “อาเก่ย” เป็นเต้าหู้ทอดยัดไส้วุ้นเส้น ราดด้วยน้ำซอสข้นๆ
กินคู่กับน้ำซุปลูกชิ้นปลา และไข่เหล็ก หรือ “เถี่ยตั้น” คือไข่ที่พะโล้จนไข่ขาวเนื้อเด้งๆ เหนียวๆ
หากมีเวลามากน้อย จะเลือกนั่งเรือเฟอรี่ข้ามฝั่งไปยังเกาะปาหลี (Bali) ที่นี่เป็นเส้นทางปั่นจักรยานเลียบทะเลที่สวย
หรือข้ามฝั่งที่มาเป็นท่าเรือ Fisherman’s Wharf ก็ได้ มีสะพานคู่รัก (Valentine’s Bridge)
ที่เป็นไฮไลท์สำคัญของฝั่งนี้ แต่แนะนำว่าควรมาในตอนเย็นๆ ช่วงพระอาทิตย์กำลังตกดิน บรรยากาศโรแมนติคมาก
วิธีการเดินทาง : MRT Tamsui (R28) เดินเลียบริมทะเลไปเรื่อยๆ
ตกค่ำมาเติมพลังที่ตลาดกลางคืนซือหลิน ตลาดกลางคืนยอดนิยมของนักท่องเที่ยว
มีของกินให้เลือกชิมหลากหลาย เช่น ไก่ทอดชิ้นโตเกือบเท่าฝ่ามือ ออส่วนหอยนางรม ไอศกรีมเกล็ดหิมะ
เมื่ออิ่มท้องแล้วเดินช็อปปิ้งต่อได้เลย มีเสื้อผ้าสวยๆ สินค้าแฟชั่น เครื่องสำอาง และรองเท้ากีฬา
วิธีการเดินทาง : MRT Jiantan (R15) ทางออก 1
ก่อนกลับเมืองไทย แวะมาไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลที่วัดหลงซานกันก่อน
ที่นี่เป็นวัดเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 300 ปี และกิตติศัพท์เรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่กวนอิม
ที่เมื่อครั้งสมัยสงครามโลกได้มีการทิ้งระเบิดลงที่นี่ แต่องค์เจ้าแม่กวนอิมกลับไม่ได้รับความเสียหายเลย
จึงทำให้ผู้คนต่างหลั่งไหลมาไหว้พระขอพรที่นี่
Note : นอกจากนี้ผู้คนยังนิยมมาขอพรเรื่องความรักกับเทพเจ้าเย่วเหล่า หรือเทพเจ้าผู้ประทานความรักของจีนที่นี่ด้วย
วิธีการเดินทาง : MRT Longshan Temple (BL10) ทางออก 1
จากนั้นมาชมอนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงอดีตประธานาธิบดีเจียงไคเช็ก
ตรงห้องโถงมีรูปปั้นทองสัมฤทธิ์สูง 6.3 เมตรของท่านตั้งอยู่
นอกจากนี้ยังพิธีผลัดเปลี่ยนเวรทหารที่ โดยจะมีขึ้นทุกๆ ต้นชั่วโมง เริ่มต้นแต่เวลา 09.00 – 17.00 น.
โดยนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้
วิธีการเดินทาง : MRT Chiang Kai Shek Memorial Hall (G10/R08) ทางออก 5
ก่อนกลับเมืองไทยมาช้อปปิ้งกันต่อที่ซีเหมินติง บางคนเรียกที่นี่ว่า “สยามสแควร์เมืองไทย”
เพราะเป็นศูนย์รวมของวัยรุ่น และสินค้าที่เอาใจวัยรุ่นโดยเฉพาะ มีร้านค้าและร้านอาหารมากมาย
เดินข้ามฝั่งไปชมตึกรูปทรงโบราณที่ชื่อว่า “ซีเหมินหงโหลว” หรือตึกแดงซีเหมินก่อนก็ได้
ที่ได้ชื่อว่าตึกแดงเพราะสร้างจากอิฐสีแดงรูปทรงแปดเหลี่ยมและรูปทรงกากบาท (เลขสิบของจีน)
ภายในตึกขายสินค้าแฮนด์เมดน่ารักมากมาย
วันเสาร์-อาทิตย์ช่วงเย็นๆ มีขายสินค้างานดีไซน์ที่หน้าตึกแดงนี้
วิธีการเดินทาง : MRT Ximen (BL11/G12) ทางออก 6
ความงามที่เกิดจากการรังสรรค์ของธรรมชาติเชื้อชวนให้ไปสัมผัส ที่นี่คือ อุทยานแห่งชาติเหย่หลิว
มีบริเวณติดกับทะเล การเคลื่อนตัวของเปลือกโลก กอรปกับการปรุงแต่งขอสายลม แสงแดด และสายฝน
ทำให้เกิดหินรูปทรงต่างๆ ขึ้นมา “เศียรราชินี” รูปทรงคล้ายๆ ศีรษาของหญิงสาว คือ ไฮไลท์ของที่นี่
เชื่อกันว่า อีกไม่กี่ปีเศียรราชินีนี่อาจโดนกระแสลม หรือสายน้ำกัดเซาะจนส่วนคอหักออกจากกันก็ได้
วิธีการเดินทาง : MRT Taipei Main Station (BL12/R10) ทางออก M2
นั่งรถบัสสาย 1815 จากท่ารถบัส Kuokuang Bus Taipei Terminal
เวลาทำการ : 08.00 – 17.00 น. (เดือน พ.ค. – ส.ค. เวลา 08.00 – 18.00 น.)
ค่าเข้า : NT$80
ถนนโบราณจิ่วเฟิ่น โด่งดังจากการที่เป็นฉากหนึ่งในหนังเรื่อง A City of Sadness ของไต้หวัน
และหนังอนิเมชั่นเรื่อง Spirited Away ของญี่ปุ่น โรงน้ำชาตึกเก่าๆ โบราณที่ตั้งอยู่บนเขา
คนไต้หวันนิยมขึ้นมาจิบชา และชมพระอาทิตย์ตกที่นี่
บัวลอยเผือกและโรตีไอศกรีมที่โรยถั่วตัดป่นและผักชี คือเมนูขึ้นชื่อที่ใครมาจิ่วเฟิ่นก็ต้องลองชิม
วิธีการเดินทาง : จากอุทยานแห่งชาติเหย่หลิว นั่งรถบัสสาย 790 มาลงที่สถานีรถไฟจีหลง (คีลุง)
และต่อรถบัสสาย 788 มาที่ถนนโบราณจิ่วเฟิ่น
ส่วนขากลับนั้น นั่งรถบัสสาย 1062 ไปลงที่ MRT Zhongxiao Fuxing หรือรถบัสสาย 965 ไปลงที่ MRT Ximen ก็ได้
วันนี้ต้องตื่นเร็วหน่อย เพราะจะนั่งรถไฟออกนอกเมืองไทเปไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติทาโรโกะ
หรือภาษาจีนเรียกว่า ไท่หลู่เก๋อ ที่เมืองฮัวเหลียน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชม.
ไท่หลู่เก๋อมีพื้นที่ประมาณ 230,000 กว่าไร่ เป็นสถานที่เที่ยวยอดฮิตติด 1 ใน 3 ของไต้หวัน
และเป็นอุทยานแห่งชาติใหญ่เป็นอันดับ 2 มีภูเขาหินแกรนิตจำนวนมาก
และหน้าผาสูงชันที่เกิดจากการกัดเซาะของธารน้ำเป็นเวลานาน
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟจากไทเป (TRA Taipei) มาที่ฮัวเหลียน (TRA Hualien)
จากนั้นนั่งรถบัส Taroko Shuttle Bus เที่ยวตามจุดต่างๆ
Note : เนื่องจากรถบัสท่องเที่ยวมีรอบเวลาที่ชัดเจน ดังนั้นหากมาเที่ยวเป็นกลุ่ม
แนะนำให้เหมาแท็กซี่จากสถานีรถไฟฮัวเหลียนจะดีกว่า ไม่ต้องเสียรอรถ
และยังมีเวลาเที่ยวจุดต่างๆ ตามที่เราต้องการ ค่าแท็กซี่ประมาณ NT$2,500 / 5 ชม.
หรือจะลงรถไฟที่สถานี TRA Xincheng ก็ได้เช่นกัน
คนไต้หวันเรียกหยางหมิงซันว่า “ป่าหลังบ้าน” ของไทเป
เพราะว่าใช้เวลาเดินทางจากเมืองไทเปไม่นาน ก็จะได้ชื่นชมและสัมผัสกับธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่แล้ว
ที่นี่มีจุดแวะพักมากมาย เช่น ยอดเขาชีซิง (Qixing Mountain) บ่อน้ำพุร้อนเสี่ยวโย่วเคิง (Xiaoyoukeng)
ทุ่งหญ้าชิงเทียนกั่ง (Qingtiangang) และทุ่งดอกไม้จู๋จึหู (Zhuzihu) เป็นต้น
นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมดอกซากุระ ดอกคาล่าลิลลี่ และดอกไฮเดรนเยียอีกด้วย
วิธีการเดินทาง : MRT Taipei Main Station (BL12/R10) ทางออก 6 นั่งรถบัสสาย 260
จากหยางหมิงซัน นั่งรถบัสลงมาที่ซินเป่ยโถวแหล่งน้ำพุร้อนตามธรรมชาติที่มีชื่อเสียงใกล้ๆ เมืองไทเป
ที่นี่มีบ่อแช่น้ำพุร้อนทั้งแบบสาธารณะ และมีโรงแรมที่เปิดให้บริการแช่น้ำพุร้อนแบบส่วนตัว คิดราคาเป็นชั่วโมง
วิธีการเดินทาง : นั่งรถบัสสาย S9 จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวหยางหมิงซันลงมาที่สถานี MRT Xinbeitou
เที่ยวจนอิ่มเอมตลอดทั้งวันแล้ว กลางคืนมาหาของกินอร่อยๆ ที่ตลาดกลางคืนหนิงเซี่ย
ตลาดกลางคืนแห่งนี้จะเน้นของกินเป็นหลัก มีอาหารอร่อยๆ หลากหลายเมนู
เช่น หลู่โร่วฟั่นหรือข้าวหน้าหมูพะโล้ อาหารทะเลสดๆ และเผือกสอดไส้ไข่เค็มหมูหยองทอด เป็นต้น
วิธีการเดินทาง : MRT Zhongshan (G14/R11) ทางออก 4 เดินต่ออีก 600 เมตร
สำหรับคนที่ทำการค้าและพวกข้าราชการมักนิยมมาไหว้พระขอพรที่วัดสิงเทียนหรือสิงเทียนกง
เนื่องจากเป็นที่ประทับของเทพเจ้ากวนอู ผู้ผดุงความยุติธรรม ซื่อสัตย์ รักคุณธรรม และเสริมบารมี
ที่วัดนี้ยังมีการทำพิธีปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายด้วย
วิธีการเดินทาง : MRT Xingtian Temple (O09) ทางออก 3 เดินอีก 300 เมตร
ศูนย์ศิลปะฮัวซัน 1914 เดิมเคยเป็นโรงงานผลิตไวน์และบุหรี่มาก่อน แต่ปล่อยทิ้งให้รกร้างมานานหลายปี
เมื่อมีการปรับปรุงใหม่อีกครั้ง ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดที่คนชื่นชอบงานศิลปะไม่ควรพลาด
มักมีการแสดงนิทรรศการต่างๆ หมุนเวียนกันไป
วิธีการเดินทาง : MRT Zhongxiao Xinsheng (BL14,o07) ทางออก 1 เดินอีก 300 เมตร
อย่างที่รู้กันว่า ไต้หวันเป็นแหล่งผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อันดับต้นๆ ของโลก
ดังนั้นการมาหาซื้อสินค้าไอทีและแก็ดเจ็ตจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดที่จะบรรจุลงไปในลิสต์ด้วย
หากเป็นสินค้าที่ผลิตในไต้หวันเอง จะมั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพ
ที่ห้างกวงหัวดิจิตอลพลาซ่านี้ เป็นศูนย์รวมของสินค้าไอทีที่ทันสมัย
การซื้อของที่นี่ยังทำเรื่องขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT Refund) ได้ด้วยนะ
วิธีการเดินทาง : MRT Zhongxiao Xinsheng (BL14,o07) ทางออก 4 เดินอีก 300 เมตร
หากบินจากเมืองไทยมาถึงที่ไต้หวันในตอนเช้า แนะนำให้จับขบวนรถไฟความเร็วสูง (HSR)
ออกนอกเมืองเพื่อมาสัมผัสธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ของไต้หวันกัน
อุทยานแห่งชาติอาหลีซัน จุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวหลายคนตั้งเป้าไว้ว่าต้องมาเยือนให้ได้
ที่นี่มีป่าสนพันปี และเส้นทางศึกษาธรรมชาติ อากาศเย็นตลอดทั้งปี
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟความเร็วสูงจาก HSR Taoyuan หรือ HSR Taipei มาลงที่ HSR Chiayi
หรือรถไฟธรรมดาจาก TRA Taoyuan หรือ TRA Taipei มาลงที่ TRA Chiayi
จากนั้นนั่งรถบัสขึ้นไปยัง Alishan
ตื่นแต่เช้ามืดเพื่อขึ้นรถไฟโบราณไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ Zhushan
กิจกรรมยอดฮิตที่ไม่ควรพลาด เมื่อมาถึงอาหลีซัน
ตอนบ่ายนั่งรถบัสจากอาหลีซันเพื่อไปทะเลสาบซันมูนเลก ลักษณะของทะเลสาบคล้ายดาวสองดาวในบึงเดียวกัน
โดยฝั่งตะวันออกคล้ายพระอาทิตย์ และฝั่งตะวันตกคล้ายพระจันทร์เสี้ยว
จึงเรียกที่นี่นี่ว่า Sun Moon Lake หรือที่คนไทยติดปากในชื่อ ทะเลสาบสุริยันจันทรา
วิธีการเดินทาง : นั่งรถบัสจากอาหลีซันตรงมาที่ซันมูนเลก รถบัสมีวันละ 2 รอบ คือ 13.00 น. และ 14.00 น.
หากไม่ต้องการรอรถบัส มีรถตู้คอยให้บริการอยู่ที่ด้านหน้า 7-Eleven หรือติดต่อให้ทางโรงแรมซื้อตั๋วโดยสารรถตู้ให้ก็ได้
พักผ่อนให้เหนื่อยกับการเดินทางในเมื่อวานแล้ว วันนี้ได้เวลาล่องเรือชมความงามของทะเล
พร้อมแวะเยี่ยมชมสถานที่สำคัญต่างๆ เช่น วัดเหวินหวู่ (Wenwu Temple) เดินชิมอาหารพื้นเมืองที่ท่าเรืออีต๋าเซ่า (Ita Thao)
นั่งกระเช้าลอยฟ้าชมบรรยากาศของทะเลสาบจากมุมสูง หรือจะปั่นจักรยานในเส้นทางที่สวยติดอันดับโลกก็ได้
วิธีการเดินทาง : เรือรอบทะเลสาบ โดยจะจอด 3 ท่า คือ ท่าเรือ Shuishe ท่าเรือ Ita Thao
และท่าเรือ Syuangguang หรือนั่งรถบัสรอบทะเลสาบ
บ่ายๆ เย็นๆ นั่งรถบัสกลับมาพักผ่อนที่เมืองไถจง เพื่อมาเดินตลาดกลางคืนใหญ่ที่สุดในไต้หวัน
นั่นคือตลาดกลางคืนเฝิงเจี่ย อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย จึงมีสินค้าแฟชั่นราคาถูก และร้านอาหารมากมาย
วิธีการเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 125 จากสถานีรถไฟ TRA Taichung
หรือนั่งรถบัสสาย 160 จากสถานีรถไฟความเร็วสูง HSR Taichung มาที่ตลาดกลางคืนเฝิงเจี่ย
ตื่นเช้าๆ มาเดินเล่นที่สวนสาธารณะไถจงที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยที่ไต้หวันอยู่ในการปกครองของญี่ปุ่น
วิธีการเดินทาง : นั่งรถบัสสาย 5 จากสถานีรถไฟ TRA Taichung
อิ่มเอมกับธรรมชาติแล้ว มาชิมไอศกรีมร้าน Miyahara ซึ่งเป็นร้านดังแห่งเมืองไถง
ไม่น่าเชื่อว่าที่นี่เคยเป็นร้านโรงพยาบาลรักษาตาชื่อ Miyahara Eye Hospital มาก่อน
แต่เมื่อโรงพยาบาลปิดตัวลง ก็เปลี่ยนมาเป็นร้านขายขนมและไอศกรีม
ที่นี่มีไอศกรีมรสชอคโกแลตจากทั่วโลกกว่า 50 รสชาติ
วิธีการเดินทาง : จากสถานีรถไฟ TRA Taichung เดินไปยังถนน Zhongshan ร้านอยู่ขวามือ
หากใครนั่งรถไฟความเร็วสูงเพื่อจะกลับเมืองไทเป แนะนำว่า จากสถานีรถไฟความเร็วสูง HSR Taichung
เหมาแท็กซี่เพื่อมาที่หมู่บ้านสายรุ้ง หรือ Rainbow Village เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ในอดีตคือหมู่บ้านทหาร
แต่ด้วยฝีมือการวาดรูปและลงสีของคุณปู่อดีตทหารผ่านศึก จึงทำให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตไปเลย
วิธีการเดินทาง : เพื่อความสะดวก แนะนำให้เหมาแท็กซี่จากสถานีรถไฟความเร็วสูง HSR Taichung มาที่หมู่บ้านสายรุ้ง
Note : หมู่บ้านสายรุ้งนี้มีขนาดเล็ก เหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปเป็นพิเศษ
นั่งรถไฟความเร็วสูงกลับเมืองไทเป เก็บกระเป๋าเช็คอินเข้าที่พักเรียบร้อย
ถึงเวลาออกมาหาอาหารเย็นสไตล์ไต้หวันกินกันที่ตลาดกลางคืนเหราเหอ ที่นี่เน้นขายอาหารเป็นหลัก
เมนูยอดฮิตประจำตลาดกลางคืนเหราเหอ คือ ซาลาอบโอ่ง หรือหูเจียวปิ่ง
ร้านนี้สังเกตง่ายๆ ตรงที่จะมีคนยืนต่อแถวขดไปขดมาอยู่นั่นล่ะ
วิธีการเดินทาง : MRT Songshan (G19) ทางออก 1
หลังจากที่เที่ยวหนักหน่วงมาหลายวัน วันสุดท้ายสำหรับการอยู่ในไต้หวัน เน้นกิจกรรมสบายๆ
ด้วยการชิมเสี่ยวหลงเปา เมนูอาหารขึ้นชื่อของไต้หวันที่ร้านติ่นไท่ฟง สาขาซินอี้
สาขานี้มีเมนูอาหารภาษาไทยด้วย หมดปัญหากันไปสำหรับคนที่ไม่รู้ภาษาจีน
วิธีการเดินทาง : MRT Dongmen (R07/O06) ทางออก 5
จบภาคของคาวแล้ว มาชิมไอศกรีมเกล็ดหิมะร้านดังที่มีต้นกำเนิดอยู่ในไต้หวัน
แต่เปิดสาขาถึง 11 แห่งที่ประเทศจีน เกาหลี และสิงคโปร์ ในย่านถนนหย่งคัง (Yongkang Street) เอง
ก็มีร้าน Smoothies House อยู่ถึง 3 ร้านด้วย แบบนี้น่าจะรับประกันความอร่อยได้ไม่ยากใช่ไหม
วิธีการเดินทาง : MRT Dongmen (R07/O06) ทางออก 5
ร้านค้าใต้ดินในบริเวณ Taipei Main Station มีอีกหนึ่งจุดช็อปปิ้งที่มีสินค้าหลากหลาย
เช่น ร้านขายเครื่องประดับ ตรงทางออก Y13 ร้านขายฟิกเกอร์ ตรงทางออก Y17 และร้านขายขนมอิมพอร์ต ตรงทางออก Y9
วิธีการเดินทาง : MRT Taipei Main Station (BL12/R10)
ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ในไต้หวันเพิ่มเติมได้จากลิงก์ข้างล่างนี้ค่ะ
https://www.1000milesjourney.com/all-about-taiwan-by-1000miles/
แล้วพบกันใหม่กับการเดินทางสะสมไมล์ต่อไปของเรานะคะ
..หนึ่งพันไมล์..
2018.09.30