มาเที่ยวไต้หวันในงบไม่ถึงหมื่นบาทกันต่อในตอน 2

ทริปนี้เรามีเวลาน้อย เที่ยวไต้หวันแค่ 2 วัน 2 คืนเต็มๆ

และเน้นเที่ยวสบายๆ ในวันที่ไต้หวันอากาศหนาว และฝนตก

ตามอ่านตอนแรกได้ที่นี่ >>> ตอนที่ 201 : เที่ยว “ไต้หวัน” ไม่ถึงหมื่น (1)

เช้าวันที่ 2 ที่อยู่ในไทเปอากาศหนาวมาก จากเมื่อวาน 24 องศา วันนี้ลดเหลือแค่ 16 องศาเท่านั้น และที่ดูพยากรณ์อากาศ เห็นว่าจะมีฝนตกด้วย มาไต้หวันไม่เจอฝน ก็เหมือนมาไม่ถึงเนอะ จากที่ตั้งใจจะนั่งรถไฟไปเที่ยวเส้นทางรถไฟสายผิงซี แต่ด้วยความที่อากาศดีเลยตื่นสาย เช้านี้จึงต้องปรับโปรแกรมกันหน่อย เริ่มต้นด้วยการไปซื้อ “ฟั่นถวน” หรือข้าวปั้นไต้หวันที่ร้านประจำกันก่อน ร้านนี้อยู่ด้านหลังห้าง Shin Kong Mitsukoshi สาขาไทเปเมนสเตชั่น (รายละเอียดเกี่ยวกับฟั่นถวนที่ลิงก์นี้เลย >>> ตอนที่ 187 : “ข้าวปั้นไต้หวัน” อิ่มง่ายๆ ราคาหลักสิบ

เมื่อไม่นั่งรถไฟ เราก็เปลี่ยนโปรแกรมเป็นนั่งรถบัสสาย 795 จาก MRT Muzha (BR02)ไปเที่ยวตลาดโบราณเซินเคิน (Shenkeng Old Street) แทน จาก MRT Taipei Main Station → MRT Muzha ใช้เวลาเดินทาง 24 นาที ค่าโดยสารแบบที่จ่ายด้วยบัตร EasyCard แค่ NT$24 เท่านั้น พอมาถึงแล้วเดินออกมาขึ้นรถที่หน้าร้าน OK Mart ได้เลย แนะนำให้

ตารางเวลารถเมล์สาย 795 ที่ให้บริการระหว่าง MRT Muzha ถึง Shifen Visitor Center อย่าลืมดู “ดาว” เวลาเดินรถให้ดี ถ้ามีดาวติดอยู่ จะสิ้นสุดปลายสายที่ Pingxi ไปไม่ถึง Shifen Visitor Center นะคะ

จาก MRT Muzha นั่งรถเมล์มาลงที่ป้าย “Shenkeng” ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาทีก็มาถึงที่ Shenkeng Old Street แล้ว ถ้าใครชอบกินเต้าหู้เหม็นแนะนำว่าต้องมาที่นี่ให้ได้เลย เพราะเป็นของขึ้นชื่อของตลาดนี้ แต่แอบกระซิบนิดนึงว่า ควรมาช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์จะดีกว่า เพราะคนเยอะ ร้านค้าเปิดเยอะ ดูจะคึกคักหน่อย และถ้าใครชอบถ่ายรูปแนว portrait นี่ไม่ควรพลาดจริงๆ

ร้านนี้ขายไอศกรีมเต้าหู้ ประตูดูคลาสิคดีเนอะ

นอกจากเต้าหู้เหม็นแล้ว ยังมีเต้าหู้ยี้ด้วย แต่เต้าหู้ยี้ร้านนี้ก็มีหลายชนิดเหลือเกิน เลือกไม่ถูกเลย

จากป้ายรถเมล์สาย 795 ฝั่งเดียวกับ Shenkeng Old Street นั่งรถเมล์สายเดียวกันไปเที่ยวผิงซี (Pingxi) กับสือเฟิ่น (Shifen) ได้เลย 

สังเกตมั้ยว่า มี “795” 2 อัน คือ 795 สายปกติที่จะจอดหลายป้ายหน่อย กับ 795 ที่เป็นของ “Taiwan Trip” หรือ ไถวันห่าวสิง (台灣好行) ซึ่งเป็นรถบัสท่องเที่ยวของไต้หวัน จะมีให้บริการทั่วทั้งประเทศ และสาย 795 นี้จะจอดเฉพาะป้ายใหญ่ๆ เท่านั้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากลิงก์นี้ >>> https://www.taiwantrip.com.tw/

ดูจากแผนที่แล้ว จะเห็นว่า ถ้านั่งรถเมล์สาย 795 มาลงที่ Shifen Visitor Center จะเดินต่อไปยังน้ำตกน้อยกว่าเดินมาจาก TRA Shifen ดังนั้นถ้าใครมาเที่ยวกับผู้ใหญ่และเด็กน้อย เราว่าวิธีการนี้ก็ช่วยประหยัดแรง และประหยัดเงินได้เยอะเลย เพราะถ้าใครเดินไม่ไหว จะนั่งแท็กซี่จาก TRA Shifen → Shifen Waterfall ก็ได้

จากหน้าทางเข้า เดินตามทางไปเรื่อยๆ ผ่านสะพานแขวน ถ้าเดินกันหลายๆ คนก็เล่นเอาแกว่างเหมือนกันนะนี่ 

น้ำตกสือเฟิ่น (Shifen Watefall) เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของไต้หวัน คนที่นี่เรียกว่า “ไนแองการ่าแห่งไต้หวัน” เพราะขอบน้ำตกโค้งเป็นรูปเกือกม้าและมีน้ำไหลลงแอ่งน้ำขนาดใหญ่ คล้ายกับน้ำตกไนแองการ่าของอเมริกา แต่เชื่อมั้ยว่า เราเคยไปเที่ยวไต้หวันตั้งหลายสิบครั้ง แต่ไม่เคยคิดจะมาเที่ยวที่นี่เลย พอดีครั้งนี้ว่างๆ เลยลองมาดูสักหน่อย แล้วอยากบอกตัวเองว่า…รู้งี้น่าจะมาตั้งนานแล้ววววววว

ที่นี่เค้าจะทำทางเดินเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปสัมผัสน้ำตกสือเฟิ่นได้ใกล้ๆ สำหรับคนที่เดินไม่ค่อยคล่อง จะหยุดถ่ายรูปแค่มุมนี้ก็สวยสมใจแล้วนะ แต่ถ้าใครมีแรงเดิน อยากให้ลองเดินตามเส้นทางท่องเที่ยวของน้ำตกสือเฟิ่นนี้สักหน่อย บรรยากาศดีมากๆ

น้ำตกสือเฟิ่นนี้มีต้นน้ำมาจากแม่น้ำจีหลง ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญ และยาวที่สุดทางตอนเหนือของเกาะไต้หวัน มีความสูงแค่ 20 เมตร แต่กว้างถึง 40 เมตร และเป็นน้ำตกที่กว้างที่สุดในไต้หวัน

จากน้ำตกสือเฟิ่นจะนั่งรถบัสสาย 795 ไปลงที่ถนนโบราณสือเฟิ่น (Shifen Old Street) ก็ได้ แต่เราเลือกที่จะเดินกลับมา เพราะขี้เกียจรอรถ แถวถนนโบราณนี้จะมีนักท่องเที่ยวมาปล่อยโคมลอยกันเยอะๆ ส่วนเราเลือกถ่ายรูปเก็บความทรงจำดีกว่า เพราะถ้าไปปล่อยโคมลอยอีกคน จะเป็นการเพิ่มขยะให้กับเค้าไปอีก

ถ้าใครอยากไปเที่ยวหมู่บ้านแมวโหวถง (Houtong Cat Village) ก็นั่งรถไฟสายผิงซีจาก TRA Shifen มาลงที่ TRA Houtong ได้เลย แต่เราไม่อินกับแมว ก็เลยขอผ่าน นั่งรวดเดียวมาลงที่ TRA Ruifang แทนดีกว่า รถไฟสายผิงซีนี้จะประมาณชั่วโมงละขบวน ดังนั้นใครจะเที่ยวตามเส้นทางนี้ต้องดูตารางเวลารถไฟให้ดี แนะนำให้ดูป้ายที่สถานีรถไฟจะดีกว่า เพราะบางทีเค้ามีการเปลี่ยนแปลงตารางเวลาเดินรถ

หากต้องการกลับไทเป ต้องนั่งรถไฟสายผิงซี มาลงที่ TRA Ruifang แล้วเดินไปที่ชานชาลาที่ 2 เปลี่ยนสายไปลง TRA Taipei อีกทีหนึ่ง ที่ TRA Ruifang นี้ เราสามารถต่อรถบัสสาย 1062 / 788 / 827 / 856 / 965 ไปลงที่ตลาดโบราณจิ่วเฟิ่น (Jiufen Old Street) ได้เลย หรือถ้ามาเที่ยวกันหลายๆ คน นั่งแท็กซี่ก็สะดวกดี เค้ามีป้ายติดไว้เลยว่า จาก TRA Ruifang → Jiufen Old Street เที่ยวละ NT$205 (ปกติแท็กซี่ของไต้หวันจะรับผู้โดยสารได้ 3คน/คัน ยกเว้นจะเป็นแท็กซี่คันใหญ่ที่รับได้เยอะหน่อยในราคาที่เท่ากัน)

อากาศหนาวๆ บวกฝนตกหนัก ประกอบกับเคยไปเที่ยวจิ่วเฟิ่นหลายรอบแล้ว เราเลือกนั่งรถไฟกลับมาหาอะไรกินที่ Taipei Main Station ดีกว่า มาถึงนี่แล้วแอบแว้บไปร้าน Hazukido ซื้อครัวซองอร่อยๆ กินสักนิด ร้านนี้อยู่บนชั้น 2 ของ Taipei Main Station ตรงนี้มีร้านอาหารเยอะมาก ส่วนใหญ่จะออกแนวอาหารญี่ปุ่นแบบกินง่ายๆ 

“ซานเป่าฟั่น” หรือข้าวเป็ดย่าง + ไก่พะโล้ + หมูแดงที่ร้านใกล้ๆ กับโรงแรมซิตี้อินน์ สาขาตรงข้ามไทเปเมนสเตชั่น จานเบ้อเริ่มขนาดนี้ แค่ NT$100 เอง ถ้าสาวๆ ตัวเล็กนี่จานนึงแบ่งได้ 2 คนเลยนะ ถ้าสนใจตามรอยปักหมุดตามนี้ได้เลย

好味港式快餐

Address : No. 17-3, Huaining Street, Zhongzheng District, Taipei City, Taiwan 100

Location : https://goo.gl/maps/gFoKjCsdnZS2

วันรุ่งขึ้นเรานั่งรถไฟฟ้าสาย Taoyuan Airport MRT จาก Taipei Main Station ไปที่สนามบิน การเลือกที่พักใกล้ๆ ไทเปเมนมีข้อดีตรงที่เดินทางสะดวกแบบนี้ล่ะ จากโรงแรมที่เราพัก เดินไม่ถึง 3 นาทีก็มาขึ้นรถไฟฟ้าได้แล้ว เราขึ้นรถไฟฟ้าเที่ยวที่ 2 ประมาณ 6 โมงกว่าๆ ก็ยังมาทันเช็กอินที่เคาน์เตอร์ของ NokScoot ที่จะบินออกจากไต้หวันตอน 09.10 น. นะ ไม่ต้องไปนอนหนาวเหน็บที่สนามบินให้ทรมาน

นกสกู๊ตบินตรงระหว่างดอนเมือง-ไทเปใช้เครื่องบินลำใหญ่ นั่งเหยียดขาได้สบายๆ เก้าอี้ก็ใหญ่ไม่ต้องไปเบียดกับคนข้างๆ ให้อึดอัด และเราได้สั่งอาหารร้อนล่วงหน้าตั้งแต่ตอนจองตั๋วเครื่องบิน เป็นแบบ Hot Meal Combo มีอาหาร 1 อย่าง + น้ำแร่ 1 ขวด ราคา 230 บาท เราสั่งเมนู “ข้าวไก่ราดซอสเผ็ดสไตล์เกาหลี” หรือ Korean Gochujang Chicken with Rice  อร่อยเกินคาด 

ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ในไต้หวันเพิ่มเติมได้จากลิงก์ข้างล่างนี้ค่ะ

หลงรักไต้หวันไปกับหนึ่งพันไมล์

https://www.1000milesjourney.com/all-about-taiwan-by-1000miles/

All About Taiwan เที่ยวไต้หวันง่ายมาก

https://www.facebook.com/1000MilesJourney/

แล้วพบกันใหม่กับการเดินทางสะสมไมล์ต่อไปของเรานะคะ

..หนึ่งพันไมล์..

2019.04.02