“ไต้หวัน หรือ 臺灣” (ไถวัน) เป็นดินแดนที่เราหลงเสน่ห์มากที่สุด
ในบรรดาประเทศต่างๆ ที่เคยไปเที่ยวมา
แม้จะเป็นเพียงเกาะเล็กๆ ที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน แต่ขอบอกว่า “จิ๋วแต่แจ๋ว” นะคะ
เมื่อปี ค.ศ. 1544 นักเดินเรือชาวโปตุเกสแล่นเรือมาพบเกาะนี้ แล้วตั้งชื่อให้ว่า
“ฟอร์โมซา” (Formosa) หรือ Ilha Formosa แปลว่า เกาะที่สวยงาม
ที่มา: http://zh.wikipedia.org/wiki/臺灣
ตอนนี้มีหลายสายการบินที่บินตรงจากกรุงเทพมายังไต้หวัน
ไม่ว่าจะเป็น Full Service อย่าง การบินไทย China Airlines EVA Air และ Trans Asia
หรือ Low cost อย่าง Tiger Air และได้ข่าวว่าเร็วๆ นี้จะมีเพิ่มอีก 1 คือ V Air
ระยะเวลาเดินทาง ประมาณ 3.5 ชั่วโมง
หลังจากจองตั๋วเครื่องบินเรียบร้อย ก็ต้องขอวีซ่าเข้าประเทศไต้หวันด้วย ค่าธรรมเนียม 1,500 บาท
เมื่อมาถึงสนามบินเถาหยวแล้ว จะเริ่มต้นเข้าสู่วังวนมนต์เสน่ห์ของที่นี่อย่างไร
เราจะมาเล่าให้ฟังทีละสเต็ปค่ะ
(แม้แต่ห้องน้ำในสนามบินยังมีสัญลักษณ์ของตึกไทเป 101 เลย)
ก่อนนั่งรถเข้าเมือง เราจะพาไปเปลี่ยนซิมการ์ดมือถือก่อน เผื่อจะได้อัพเฟส อัพไอจี หรือคุยไลน์กับเพื่อนๆ
ที่สนามบินเถาหยวน มี 2 Terminal เราเอาแผนผังของทั้ง 2 ที่นี้มาให้ดู
ในวงๆ สีเขียว เป็นเคาน์เตอร์ที่เราสามารถไปติดต่อเรื่องซิมการ์ดได้
Termianl 1 อยู่ที่ชั้น B1 และ Terminal 2 อยู่ที่ชั้น 1
ตอนนี้มี 2 บริษัทใหญ่ๆ ที่ให้บริการด้านนี้ คือ Chunghwa Telecom และ Taiwan Mobile
ครั้งนี้เราจะจึงขอแนะนำเส้นทางไปเคาน์เตอร์ของ Chunghwa Telecom ที่ Terminal 1 (ข้างๆ หมายเลข 7)
หลังจากรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว เดินออกมาด้านนอก แล้วเลี้ยวซ้าย
(ดูป้าย Skytrain to Terminal 2 เป็นหลักก็ได้)
เดินออกมาแล้ว เลี้ยวซ้าย ตรงมุมที่มีป้าย Subway อีกที
เดินตรงไปเรื่อยๆ เคาน์เตอร์ของ Chunghwa Telecom อยู่ไม่ไกลแล้ว
มองมาทางขวามือ นี่ล่ะใช่เลย Chunghwa Telecom
เห็นคนเยอะๆ แบบนี้ เป็นเพราะช่วงนั้นนักท่องเที่ยวลงเครื่องพร้อมกันหลายลำ
แต่ระยะเวลาให้บริการจริงๆ ไม่นานเลยนะ ถ้าเรารู้แล้วว่าจะเลือก package ไหนดี
ส่วนหลักฐานที่ใช้ มีเพียง “Passport” อย่างเดียวเท่านั้น (ภาษาจีนเรียกว่า 護照 หู้เจ้า)
แป๊บเดียวก็ได้ซิมการ์ดมาแล้ว เราใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ทุกอย่างเรียบร้อย
ให้ดูป้ายชัดๆ อีกทีว่าหน้าตาเป็นแบบนี้
Chunghwa Telecom (中華電信)
ที่นี่เปิดให้บริการตั้งแต่ 08.00-18.00 น. เท่านั้น
ถ้าใครมา Tiger Air หรือ Trans Asia ก็จะไม่ทัน เพราะกว่าจะมาถึงก็ตั้งเที่ยงคืนแล้ว
นอกจากว่าจะเข้าไปซื้อในเมือง ซึ่งอาจจะสื่อสารกันยากนิดนึง หรือนอนที่สนามบิน แล้วมาซื้อเช้าวันรุ่งขึ้น
ทุก Package มีสัญญาณ 3G สามารถเล่นเน็ตได้ทุกที่ทุกเวลา แต่ต่างกันที่จำนวนวัน และค่าโทรศัพท์
A จำนวน 3 วัน ค่าใช้จ่าย 300 NT ค่าโทร 100 NT
B จำนวน 5 วัน ค่าใช้จ่าย 300 NT ค่าโทร 50 NT
C จำนวน 5 วัน ค่าใช้จ่าย 500 NT ค่าโทร 300 NT
D จำนวน 7 วัน ค่าใช้จ่าย 500 NT ค่าโทร 150 NT
E จำนวน 10 วัน ค่าใช้จ่าย 500 NT ค่าโทร 100 NT
F จำนวน 15 วัน ค่าใช้จ่าย 700 NT ค่าโทร 100 NT
G จำนวน 30 วัน ค่าใช้จ่าย 1,000 NT ค่าโทร 430 NT
โทรกลับไทย นาทีละ 2.1 NT
วิธีการโทรก็ง่ายๆ แค่กด 019 ตามด้วยรหัสประเทศ และเบอร์โทรศัพท์ แต่ตัด 0 ออก
“019 66 (0) xx-xxx-xxxx”
พิกัดที่ 1 : ก่อนผ่านด่านตม. เปิดบริการ 10.00-22.00 น.
หลังผ่านด่าน ตม. และรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว
พิกัดที่ 2 : เลี้ยวขวา เปิดบริการ 08.00-22.00 น. (แต่บางเจ้าเปิดประมาณ 07.30 น.)
พิกัดที่ 3 : เลี้ยวซ้ายก่อนลงบันไดเลื่
พิกัดที่ 4 : เลี้ยวซ้ายทางไปDepartureHall (หัวมุมร้าน Sub Way) เปิดบริการ 08.00-18.00 น.
ค่าบริการใกล้เคียงกัน คือ
3 วัน 300NT , 5 วัน 300/500NT , 7 วัน 500NT , 10 วัน 500NT , 15 วัน 700NT ,
30 วัน 1,000NT
แพคเกจอินเตอร์ 3G /4G ของไต้หวันเป็นแบบ Unlimited จริงๆ
ไม่มีกั๊ก ไม่จำกัดความเร็วและปริมาณก
จำนวนวันเท่ากัน แต่ราคาต่างกัน เป็นที่จำนวนเงินค่าโทรไม่เ
นอกจากในสนามบินแล้ว เรายังสามารถหาซื้อซิมการ์ด
และช็อปของผู้ให้บริการด้าน
有上网電話卡嗎? โหย่ว ซั่ง หวั่ง เตี้ยน ฮั่ว ข่า มา? มีซิมการ์ดแบบที่เล่นเน็ตได
เล่นเน็ต ภาษาจีนเรียกว่า ซั่ง หวั่ง (上网) / ซิมการ์ด ภาษาจีนเรียกว่า เตี้ยน ฮั่ว ข่า (電話卡)
การซื้อซิมการ์ดข้างน
(แม้พูดจาภาษาเดียวกันก็ตาม
เมื่อจัดการเรื่องโทรศัพท์เรียบร้อย ก็มาถึงวิธีเดินทางเข้าเมืองกันต่อ
สนามบินเถาหยวนอยู่ห่างจากเมืองไทเปไม่ไกล ใช้เวลาเดินทางโดยรถบัสแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้น
เดินย้อนกลับมาทางเดิม จะเห็นป้าย “Bus to city” หรือ “Bus to High Speed Rail”
ก็เดินลงบันไดเลื่อนไปได้เลย
จะนั่งรถบัส หรือรถไฟความเร็วสูง ก็ต้องมาทางนี้เหมือนกัน
เพราะถ้านั่งรถไฟความเร็วสูง เราต้องนั่งรถบัสออกจากสนามบินก่อน แล้วถึงจะไปที่สถานีรถไฟความเร็วสูง
เดี๋ยวจะมาบอกอีกทีว่าต้องทำยังไง
ยังคงไปไม่ถึงเคาน์เตอร์ขายตั๋วรถบัสเข้าเมืองซะที
ขอแวะที่มินิมาร์ทก่อน 2 สิ่งนี้เป็นอะไรที่เราต้องหยิบก่อนเสมอเมื่อมาถึงไต้หวัน
บอกก่อนว่าเป็นความชอบส่วนตัวนะ คนอื่นอาจจะเฉยๆ ก็ได้
คือ มาม่าวิทยาศาสตร์ และน้ำเลมอนโซดา
มาม่าวิทยาศาสตร์ เป็นแบบกินเล่น ไม่ต้องต้มน้ำ เนื้อสัมผัสเค้าจะคนละอย่างกับมาม่าบ้านเรา ห่อละ 10 NT
แต่ที่ชื่อว่า “มาม่าวิทยาศาสตร์” เป็นเพราะเค้าให้ความรู้เกี่ยวกับด้านดวงดาวและจักรวาลอยู่หลังซองด้วย
ส่วนน้ำเลมอนโซดา เปรี้ยวนิดๆ แต่ซาบซ่า ที่ญี่ปุ่นก็มี แต่ราคาแพงกว่า ที่ไต้หวันขวดละ 29 NT
ในมินิมาร์ทยังมีขายอาหารพร้อมทานด้วย
เค้าจะถามว่า 你要加熱嗎? (หนี่ เย่า เจีย เย้อ มา) ต้องการอุ่นมั้ย?
ถ้าต้องการให้เค้าอุ่นให้ ก็บอกว่า เย่า (要) ถ้าไม่อยากอุ่น ก็บอกว่า ปู๋เย่า (不要)
จะพยักหน้าหรือส่ายหน้าก็ได้ เข้าใจเหมือนกัน
ร้านค้าตามเมืองนอกส่วนใหญ่จะไม่มีถุงพลาสติกให้นะ ที่ไต้หวันนี่ก็เช่นกัน
เวลาเราไปซื้อของ จะพกถุงผ้าแบบพับเก็บได้ไปด้วย พอจ่ายเงินเรียบร้อย ก็กวาดของลงถุงได้เลย
ส่วนใครไม่มีถุงเป็นของตัวเอง ก็ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ใบละ 1 NT
แต่ถ้าเป็นพวกของกินที่อุ่นร้อนแล้ว เค้าจะใส่ถุงตาข่ายแบบนี้มาให้ อันนี้ไม่ต้องเสียเงิน
ตุนเสบียงเรียบร้อยก็ถึงเวลานั่งรถเข้าเมืองจริงๆ ซะทีแล้ว
จริงๆ แล้วการเข้าเมืองมีหลายวิธี คือ
1. นั่งรถบัสของ Kuo-Kuang Motor Transport ค่าบริการคนละ 125 NT
2. นั่งรถบัสของ Free Go bus ค่าบริการคนละ 140 NT (มี shuttle bus ส่งถึงโรงแรม)
3. นั่งรถบัส U-Bus ราคา 30 NT ใช้เวลา 20 นาที ไปลงที่สถานี THSR Taoyuan
จากนั้นต่อรถไฟความเร็วสูงไปลงที่ THSR Taipei Station ราคา 160 NT ใช้เวลาอีก 20 นาที
3. นั่ง Taxi จากท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวน ถึง กรุงไทเป ค่าโดยสารประมาณ 1,200 NT
ครั้งนี้เราใช้วิธีการที่ 1 คือ นั่งรถบัสของกั๋วกวง (Kuo-Kuang Motor Transport)
ซื้อตั๋วได้ที่ช่องบริการ 7 และ 8
ค่าโดยสารสำหรับผู้ใหญ่ 125 NT สำหรับเด็กและคนชรา 65 NT
ใช้เวลาเดินทาง ประมาณ 1 ชั่วโมง (แล้วแต่สภาพการจราจร)
ตรวจสอบเวลาเดินรถได้ที่นี่ >>> http://goo.gl/rW0tf4
ได้ตั๋วมาแล้ว อย่าลืมเก็บไว้แสดงตอนขึ้นรถด้วย เค้าจะฉีกตั๋วเราไปส่วนหนึ่ง
จากนั้นก็เดินออกมาขึ้นรถข้างนอกที่ ช่องจอดที่ 5 ได้เลย
มีบอกว่าเป็นช่องของ Kuo-Kuang หมายเลขรถ 1819
จากนั้นก็เอากระเป๋าเดินทางให้เจ้าหน้าที่เก็บไว้ใต้ท้องรถ
เค้าจะมีแยกช่องเอาไว้ด้วยว่าจะไปลงที่ไหน
มีป้ายเพิ่มขึ้นมาอีก 1 คือแท็กติดกระเป๋า
เค้าจะติดไว้ที่กระเป๋าเรา 1 อัน และให้เราเก็บไว้เองอีก 1 อัน
ปกติแล้วต้องเก็บไว้ยื่นเวลาที่เราจะเอากระเป๋าเดินทางออกจากรถ แต่บางครั้งก็ไม่ได้ตรวจ
สภาพภายในรถบัสของ Kuo-Kuang
ภายในดูสะอาดสะอ้าน นั่งสบาย ไม่มีการระบุที่นั่ง ขึ้นก่อนได้เลือกที่นั่งก่อน
——————————————————————————————————————————————
ส่วนคนที่ต้องการเข้าเมืองไทเปด้วยรถไฟความเร็วสูง หรือ Taiwan High Speed Rail (THSR)
ต้องขึ้นรถบัสของบริษัท U-Bus ไปลงที่สถานีรถไฟความเร็วสูง แล้วต่อรถไฟเข้าเมืองอีกที
(Taoyuan Airport >>> THSR Taoyuan Station >>> THSR Taipei Station)
ค่ารถบัสของ U-Bus 30 NT ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที
เมื่อมาถึงสถานีรถไฟความเร็วสูงเถาหยวนแล้ว ก็ไปที่เคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วบอกว่าไปไทเป
ค่าโดยสาร 160 NT
สิ่งที่ควรระวัง คือ ต้องดูที่หน้าตั๋วว่า ขบวนที่เราจะไปนั้น ต้องไปขึ้นที่ชานชาลา (platform) ไหน
ถ้าหลงแพลทฟอร์ม ก็ขึ้นผิดขบวน ไปกันคนละที่เลยนะ
มีประสบการณ์เฉียดมาแล้วค่ะ ^^
——————————————————————————————————————————————
นั่งรถชมวิวเพลินๆ แป๊บเดียวก็มาถึงในเมืองแล้ว
ระหว่างทางจะมีจอดตามป้ายต่างๆ เป็นระยะ ซึ่งคนขับจะประกาศบอกว่าถึงที่ไหนแล้ว
แต่เรามาลงที่ปลายทางเลย คือ หน้าท่ารถบัสไทเป
สังเกตว่าที่คนลงกันเยอะๆ หมดทั้งรถนั่นล่ะ แสดงว่าสุดสายแล้ว
จริงๆ แล้วมีบริการ Shutter bus ไปซีเหมินติงฟรีด้วย แต่ต้องรอรถอีกประมาณ 20 นาที
เราเลยเลือกที่จะนั่งรถไฟฟ้า (MRT) ไปเอง เพราะจาก Taipei Main Station ไป Ximending แค่ 1 สถานีเอง
ลงจากรถแล้วหันหลังกลับ ลากกระเป๋าเดินเข้าไปเลยที่อาคารใหญ่ๆ เลย
จะมีบอกเส้นทางไปขึ้นรถไฟฟ้า
รถไฟฟ้า หรือ MRT ที่นี่เรียกว่า เจี๋ยอวิ๋น (捷運)
บัตรโดยสารรถไฟฟ้าในไทเป มี 3 แบบ คือ
1. แบบรถไฟฟ้า (MRT) + รถบัส (Taipei & New Taipei City Buses)
มีให้เลือกอีกว่า จะเป็นบัตรแบบ 1 วัน 180 NT / 2 วัน 310 NT / 3 วัน 440 NT หรือ 5 วัน 700 NT
2. แบบตั๋ววัน 150 NT ใช้ได้เฉพาะ MRT ภายใน 1 วันเท่านั้น พอเที่ยงคืนปุ๊บบัตรใช้ไม่ได้ทันที
3. แบบตั๋ว 24 ชั่วโมง 180 NT คือเริ่มต้นใช้เวลาไหน ก็จะหมดเวลานั้นของอีกวันหนึ่ง ใช้ได้เฉพาะ MRT
แต่มีบัตรอีกหนึ่งแบบที่ใช้งานง่ายสมชื่อ เรียกว่า Easy Card หรือ โยว โหยว ข่า (悠遊卡)
เป็นบัตรโดยสารรถไฟฟ้า แถมยังมีส่วนลดให้ 20% ทุกเที่ยวด้วยนะ
หรือจะใช้ตอนขึ้นรถประจำทาง แม้แต่ซื้อของตามร้านสะดวกซื้อก็ใช้บัตรนี้ได้เช่นกัน
สามารถหาซื้อได้ที่ตู้จำหน่ายบัตรอัตโนมัติตามสถานีรถไฟฟ้า
(รูปภาพจากอินเตอร์เน็ต)
ในสถานีรถไฟฟ้าจะมีตู้จำหน่ายบัตรอัตโนมัติอยู่
ในส่วนของ Taipei Main Station มีจำหน่ายที่ Easy Card Customer Service Center
เดินเข้าไปเห็นภาษาจีนเต็มพรืดไปทั้งหน้าแบบนี้ ก็จัดแจงเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษเลย
มีคำเดียวที่อ่านออก “English” กดที่ตัวนี้นี่ล่ะ
เมื่อจัดแจงเปลี่ยนภาษาเรียบร้อย
หน้าจอก็จะเป็นแบบนี้ อ่านง่ายขึ้นมั้ย
ถ้าจะซื้อบัตร Easy Card ก็กดที่ “Easy Card Purchase”
ซึ่งเราจะได้เฉพาะบัตรออกมาอย่างเดียว แต่ไม่มีเงินในบัตร
ต้องไปเติมเงินอีกที การเติมเงินขั้นต่ำ 100 NT
ให้กดเลือกว่าเป็นบัตรสำหรับผู้ใหญ่
หรือบัตรพิเศษ เช่น เด็กที่มีส่วนสูงระหว่าง 115-145 ซม. คนชรา หรือคนพิการ
ราคาบัตรเท่ากัน คือ 100 NT
ใส่แบงค์เข้าไปในช่องรับธนบัตร
จะอยู่ทางด้านล่างๆ ขวามือ
เสร็จแล้วก็จะมีบัตร Easy Card ออกมาให้
อย่างที่บอกไว้ตอนแรกว่า มีเฉพาะบัตรอย่างเดียว ขั้นตอนต่อไปคือ เติมเงินลงในบัตร
เราสามารถเก็บไว้ใช้คราวต่อไปได้
ขั้นตอนต่อมาคือการเติมเงิน
ซึ่งต้องเติมขั้นต่ำ 100 NT
ต้องใส่แบงค์ให้พอดีกับจำนวนเงินที่เราจะเติมด้วยนะ เพราะเครื่องไม่มีเงินทอนออกมาให้
ถ้าเป็นบัตร Easy Card ที่ซื้อกับตู้อัตโนมัติ เวลาคืนบัตรจะได้เงินคงเหลือคืนทั้งหมด และหักค่าบัตร 20 NT
เช่น เราเหลือเงินในบัตร 200 NT เวลาคืนบัตร ได้เงินคืน 200 NT + ค่าบัตร 80 NT = 280 NT
ถ้าเกรงว่าจะซื้อบัตร Easy Card ที่เครื่องอัตโนมัติไม่สะดวก
เรามีอีกหนึ่งทางเลือกมานำเสนอ นั่นก็คือ….
ซื้อที่มินิมาร์ทได้เลย ไม่ว่าจะเป็น 7-11 Family Mart Hi-Life
แค่บอกเค้าว่า Easy Card เป็นอันรู้กัน
ได้บัตร Easy Card มาอยู่ในมือเรียบร้อย ก็ถึงคราวไปเช็คอินเข้าที่พักกันต่อ
ที่ชานชาลารถไฟ จะมีป้ายบอกเส้นทางว่ารถไฟมุ่งหน้าไปทางไหน
เพียงแค่เรารู้จุดหมายต่อไปของเราอยู่ที่สถานีไหน แค่นี้ก็ขึ้นรถไฟได้ทุกขบวนแล้ว
ที่พักของเราอยู่แถวซีเหมินติง
สถานีที่เราจะไปลงก็คือ MRT Ximen Station ถัดจาก Taipei Main Station ไปแค่ 1 สถานีเอง
เพียงเท่านี้เราก็ได้มาเดินชิลด์ๆ รับลมเย็นๆ ที่แหล่งวัยรุ่นยอดฮิตของไต้หวันแล้ว ซีเหมินติง (Ximending)
การคมนาคมที่ไทเปนี่สะดวกมากๆ วิธีการก็แบบเดียวกับบ้านเรานี่ล่ะ
แค่รู้ว่าต้องไปสถานีไหน ทางออกไหน เท่านี้ก็เรียบร้อย
แถมท้ายให้สักนิดกับแผนที่รถไฟฟ้าฉบับอัพเดทล่าสุด Nov 14
เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 14 ทางไต้หวันเพิ่งเปิดเส้นทางใหม่ สายสีเขียว Songshan-Xindian
เส้นทางนี้มีตลาดกลางคืนที่มีของกินอร่อยๆ ด้วยนะ เอาไว้คราวหน้าจะชวนไปชิมค่ะ
หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามกันได้ที่แฟนเพจ
https://www.facebook.com/1000MilesJourney
หรือ Line Official : @1000MilesJourney ค่ะ
แล้วพบกันใหม่กับการเดินทางสะสมไมล์ต่อไปของเรานะคะ
..หนึ่งพันไมล์..
2014.11.21
www.facebook.com/1000MilesJourney