ในชีวิตคนเมือง จะมีสักกี่ครั้งที่ได้มานั่งกินข้าวเช้าเคล้าสายหมอกแบบนี้

เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว แอบหนีขึ้นไปเชียงรายมาจ้ะ

เป้าหมายหลักมีอย่างเดียวเลยคือ ไปกินพิซซ่าโฮมเมดที่ผาฮี้

ว่าแล้วก็หาที่พักแถวผาฮี้นอนสักคืนด้วยเลยดีกว่า

ทีแรกว่าจะไปนอนโฮมสเตย์ทั่วไป ที่นั่นเค้าจะคิดคนละ 800 บาท มีอาหารเย็นและเช้าให้ด้วย แต่เราไปคนเดียว ต้องจ่าย 1,200 บาท รู้สึกไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ เลื่อนเฟซบุ๊คหาที่พักไปเรื่อยๆ มาเจอ ผาฮี้แคมป์ปิ้ง ซึ่งที่นี่จะทำเป็นเพิงไม้ไผ่ และมีเต็นท์มากางให้ ราคามิตรภาพ แค่ 750 บาทต่อหลัง (นอนได้ 2 คน) มีที่นอนให้พร้อมสรรพ รวมอาหารเช้าเป็นข้าวต้มและกาแฟด้วย ตกลงโอนเงินจองไปทันที

แอบลุ้นอยู่เหมือนกันว่าจะได้เจอหมอกรึเปล่า เพราะตอนไปถึงช่วงบ่ายๆ ของวันศุกร์ อากาศร้อน และฝนไม่ตก ได้แต่ภาวนาให้คืนนี้ฝนตกด้วยเถอะ เผื่อพรุ่งนี้เช้าจะมีหมอกลอยมาให้เชยชม และแล้วฝนก็ตกตอนตี 4 แต่ 6-7 โมงเช้าแล้ว หมอกก็ยังไม่มาสักที

จัดแจงอาบน้ำแต่งตัวกะว่าจะลงไปเที่ยวในเมืองแล้วนะ ที่ไหนได้ ออกมาจากห้องน้ำนี่ หมอกอย่างแน่น แน่นแบบขาวโพลนไปทั่วท้องฟ้าเลย (นี่ก็มากเกินไป) จากที่จะเข้าเมือง ก็เปลี่ยนใจ กินข้าวเช้า และนอนมองหมอกลอยอ้อยอิ่งไปเลื่อนๆ จนถึง 10 โมงโน้นแน่ะ ถึงได้ขยับร่าง 

เราชอบที่นี่นะ ถ้าใครไม่ติดว่า ต้องนอนเต็นท์และใช้ห้องน้ำรวม แต่ได้ใช้ชีวิตสบายๆ แนบชิดกับธรรมชาติ ลองมาเปลี่ยนบรรยากาศดูสักคืนสิ

ที่บ้านผาฮี้นี่ถือว่าขับรถขึ้นมาไม่ยากนะ จากตัวเมืองหรือสนามบินเชียงราย วิ่งตรงมาทางดอยตุง – บ้านผาฮี้ได้เลย ถนนลาดยางตลอดทั้งเส้น บางช่วงทางชันหน่อย อย่าลืมขับรถด้วยความระมัดระวังนะ ส่วนขากลับ จะวิ่งลงไปทางบ้านผาหมี ผ่านขุนน้ำนางนอน แล้วเข้าตัวเมืองก็ได้

แล้วพบกันใหม่กับการเดินทางสะสมไมล์ต่อไปของเรานะคะ

..หนึ่งพันไมล์.. 

2020.10.31