โอกาสดีของคนทางภาคเหนือแล้วที่มีเทียวบินตรงจากเชียงใหม่ไปไทเป

ทีนี้พี่น้องชาวเหนือก็เดินทางไปไต้หวันกันได้ง่ายขึ้น

ซึ่งเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 30/9/18 ที่ผ่านมานี้เอง

และเราก็ได้รับเชิญจากทาง AirAsia ให้ร่วมเดินทางในเที่ยวบินปฐมฤกษ์นี้ด้วย

เส้นทางบินตรงระหว่างเชียงใหม่ – ไทเป

FD242 เชียงใหม่ (CNX) – ไทเป (TPE) เวลา 21.50 – 02.30 (+1)

FD243 ไทเป (TPE) – เชียงใหม่ (CNX) เวลา 03.00 – 06.15

จองตั๋วเครื่องบินได้ที่ >>> https://www.airasia.com

ส่วนการเดินทางจากสนามบินเถาหยวนเข้าเมืองไทเปนั้น

แนะนำให้ใช้บริการรถรับส่งของ Tripool เลย สะดวกมากๆ

พอมาถึงไต้หวันปุ๊บก็มีรถตู้มาคอยรับอยู่แล้ว ไม่ต้องไปติดต่อหาแท็กซี่ให้เสียเวลา

อย่างของเราไปกัน 7 คน ค่ารถแค่ NT$1,153 เฉลี่ยคนละ NT$165 เอง 

ุถูกกว่านั่งรถไฟฟ้า หรือรถบัสจากสนามบินเข้าเมืองไทเป และต่อรถบัสไปที่โรงแรมอีก

จองผ่านเว็บไซต์นี้ได้เลย >>> http://bit.ly/tripool_1000Miles

รุ่งเช้าเราเตรียมตัวเดินทางไปที่ไถจงกันต่อ

ทริปนี้เน้นชิลด์ๆ เรานัดรถของ Tripool ให้มารับที่โรงแรมในไทเปและไปส่งที่โรงแรมในไถจง

Tripool คือ บริการรถรับส่งส่วนตัวจากสถานที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง (point-to-point transportation)

ซึ่งเราจองล่วงหน้าตั้งแต่อยู่เมืองไทยเลย ข้อดีนอกจากสะดวก สบายแล้ว ยังทำให้การเดินทางเป็นไปตามแผนที่วางไว้

โดยเค้าจะส่งรายละเอียดเกี่ยวกับชื่อและเบอร์โทรของคนขับรถ ป้ายทะเบียนรถมาให้ทางอีเมล 1 วันก่อนเดินทาง

จองผ่านเว็บไซต์นี้ได้เลย >>> http://bit.ly/tripool_1000Miles

ซึ่งเค้าเห็นความสำคัญของนักท่องเที่ยวชาวไทยด้วยการทำเว็บไซต์เป็นภาษาไทยอีกด้วย

รถของ Tripool จะมารับเราตามเวลาที่นัดเอาไว้ ซึ่งเค้าจะแบ่งเป็นช่วงเวลา เช่น 08.00-08.30 น.

วันนี้เราเดินทางไปไถจงกันหลายคน เค้าจึงส่งรถตู้มารับที่หน้าโรงแรมเลย

อย่างที่บอกไว้ว่า Tripool เป็นบริการรถรับส่งส่วนตัว ฉะนั้นเราจึงไม่ต้องไปนั่งรวมกับคนอื่น

ฉะนั้นราคาอาจจะดูสูงกว่ารถโดยสารสาธารณะทั่วไป แต่ก็แลกกับความสะดวก สบาย และเป็นส่วนตัวมากกว่า

หากใครที่เดินทางกับญาติผู้ใหญ่ หรือเด็กเล็ก เราว่า Tripool ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีมากเลยทีเดียว

หลังจากเอากระเป๋าไปฝากไว้ที่ Treeart Hotel แล้ว

พวกเราก็เริ่มต้นโปรแกรม “One day trip in Taichung” กันเลย

1st Check in : Miyahara Ice Cream

ที่นี่เป็นร้านไอศกรีมชื่อดังของเมืองไถจงเลย เค้าปรับปรุงอาคารมาจากโรงพยาบาลเก่า

และมีไอศกรีมชอคโกแลตให้เลือกเยอะมากกก รวมถึงมีชอคโกแลตขายด้วย

ถ้าใครมีเวลาน้อย จะแวะมาชิมไอศกรีมอย่างเดียวก็ได้

หรือถ้ามีเวลาเยอะหน่อย จะขึ้นไปกินอาหาร ถ่ายรูปสวยๆ ที่ชั้นบนของตึกกก็ได้เช่นกัน

2nd Check in : Dong Dong Taro Balls

สังเกตได้อย่างหนึ่งว่าที่ไต้หวันนิยมกินบัวลอยกันเยอะมาก

ตามตลาดกลางคืนจะมีอยู่หลายร้านเลย หรือที่คนไทยรู้จักกันดีก็ที่จิ่วเฟิ่น (Jiufen)

ที่ไถจงเองก็มีร้านอร่อยที่คนท้องถิ่นแนะนำมาคือ ร้าน Dong Dong Taro Balls

ซึ่งจะมีทั้งบัวลอยรสต่างๆ เช่น มันเทศ และเผือกเป็นต้น

เราสั่งแบบถ้วยเล็ก ใส่เฉาก๊วย ถั่วเขียว และลูกเดือยเข้าไปอีก

เมื่อท้องอิ่มแล้ว ก็ได้เวลาเดินเที่ยวของจริงซะทีคนขับรถพาพวกเรามาที่ 

3rd Check in : Summit Resort Taichung (Xinshe Castle)

สาวๆ ที่ชอบถ่ายรูปแนะนำว่าต้องมาให้ได้เลย เพราะที่นี่มีปราสาทสไตล์ยุโรปอยู่หลายหลัง

นอกจากผู้คนนิยมมาพักผ่อน และถ่ายรูปกันแล้ว เค้ายังมาถ่ายพรีเวดดิ้งกันด้วย

รอบนี้นอกจากเห็นบ่าวสาวถ่ายรูปชุดแต่งงานแล้ว ยังเห็นมีครอบครัวฝรั่งมาถ่ายคอสเพลย์ตามเรื่อง Harry Potter ด้วยล่ะ 

เผื่อใครวางแพลนจะมาเที่ยวเทศกาลดอกไม้ Taichung Flora Expo 2018

ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 3/11/18 – 24/4/19

อย่าลืมเผื่อเวลามาเที่ยวที่นี่ด้วยนะ รับรองว่าจะได้รูปสวยๆ กลับไปเพียบเลย

และถ้าไม่บอก ก็จะไม่มีใครรู้หรอกว่ารูปนี้ถ่ายที่ไต้หวันนี่เอง!!!

เบรคกินมื้อเที่ยงตอนบ่ายนิดๆ เมนูยอดฮิตของเมือง Xinshe (ซินเช่อ)

4th Check in : Mushroom Hot Pot

เมืองซินเช่อเป็นแหล่งเพาะเห็ดส่งขายภายในเกาะไต้หวันถึง 60-70% เลยทีเดียว

ตอนที่เค้ายกมาเสิร์ฟนั้น เรานึกถึงพวกที่ชอบกินอาหารเพื่อสุขภาพเลย

น้ำซุปตุ๋นยาจีนมาแบบเข้มข้น และมาพร้อมกับเห็ดสารพัดชนิด

แต่เราเป็นพวกหมูแข็งแรง เลยต้องขอสั่งเนื้อหมูเพิ่มอีกสักหน่อย ไม่อย่างนั้นมันจะคลีนเกินไปเนอะ

โปรแกรมต่อมา คนขับรถพาเรามาไหว้เจ้าแม่ทับทิมที่คนไต้หวันนับถือกันที่

5th Check in : Dajia Mazu Temple 

แต่เดิมวัดต้าเจี่ยนี้สร้างขึ้นในปี 1770 แต่ด้วยความเก่าแก่และต้องซ่อมแซม

เค้าจึงย้ายมาตั้งที่นี่ตั้งแต่ปี 1980 และยังคงรูปแบบเดิมเอาไว้

เจ้าแม่ทับทิม หรือม่าโจ้ว หรือมาจู่ (媽祖) เป็นที่นับถือของชาวฮกเกี้ยน และชาวแต้จิ๋ว

รวมถึงชาวจีนโพ้นทะเลที่ประกอบอาชีพประมง และเดินเรือ

ที่ไต้หวันเองมีศาลเจ้าแม่ทับทิมจำนวนไม่น้อยเช่นกัน

ช่วงเดือนเมษายนของทุกปี จะมีการแห่เจ้าแม่ทับทิมไปตามท้องถนน เพื่อไปยังศาลเจ้าที่เมืองเจียอี้

เพื่อให้ชาวบ้านได้กราบไหว้สักการะกัน เป็นระยะทางยาวกว่า 300 กม.

6th Check in : Gaomei Wetlands

พื้นที่ชุ่มน้ำเกาเหม่ย ที่นี่เป็นจุดหมายหลักของการเที่ยวไถจงของเราเลย

เป็นครั้งที่ 3 แล้วที่มาถึงที่นี่ แต่ 2 ครั้งก่อนยังไม่ได้รูปสวยถูกใจ จึงต้องมาแก้มืออีกครั้ง

ถ้าใครจะมาที่ Gaomei Wetlands นี้ อย่าลืมพกเสื้อแขนยาวหรือเสื้อแจคเก็ตมาด้วยนะ

เพราะอยู่ริมทะเล ลมแรง และอากาศเย็นมากจ้ะ

เค้าอำนวยความสะดวกด้วยการทำสะพานไม้ยาว 800 เมตรยื่นลงไปในทะเลด้วย

เราไปวันเสาร์ คนเยอะพอสมควร แม้ทางเดินจะกว้างพอสมควร เวลาเดินต้องระวังกันสักนิดนึง

เพราะใครๆ ก็อยากได้รูปสวยๆ เนอะ

ช่วงเวลาสุดโรแมนติคของการมาเยือน Gaomei Wetlands 

คือมาชมพระอาทิตย์ตกนี่ล่ะ

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกหนึ่งแห่งในไต้หวันที่เราชอบมากๆ

เมื่อมาถึงเมืองไถจงแล้ว ตลาดกลางคืนที่ไม่ควรพลาด และอยากแนะนำให้มาเดิน คือ

7th Check in : Feng Chia Night Market

ตลาดกลางคืนฝงเจี่ยเป็นตลาดกลางคืนขนาดใหญ่ อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัย

ดังนั้นของที่ขายส่วนใหญ่จะเน้นแนวเอาใจวัยรุ่น

แอบกระซิบนิดนึงว่า รองเท้าที่ขายในตลาดกลางคืนแห่งนี้ ถูกกว่าซื้อที่ไทเปอีก!!!

พิกัดนี้เลย :

จากตลาดกลางคืนฝงเจี่ย  เราเดินกลับมาที่ Treeart Hotel

ซึ่งใช้เวลาเดินแค่ 10-15 นาทีก็มาถึงโรงแรมแล้ว

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ >>>

[รีวิวไต้หวัน] ตอนที่ 183 : Treeart Hotel Taichung ใกล้ตลาดกลางคืนฝงเจี่ย

ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ในไต้หวันเพิ่มเติมได้จากลิงก์ข้างล่างนี้ค่ะ

หลงรักไต้หวันไปกับหนึ่งพันไมล์

https://www.1000milesjourney.com/all-about-taiwan-by-1000miles/

All About Taiwan เที่ยวไต้หวันง่ายมาก

https://www.facebook.com/1000MilesJourney/

แล้วพบกันใหม่กับการเดินทางสะสมไมล์ต่อไปของเรานะคะ

..หนึ่งพันไมล์..

2018.10.04