รีวิวตอนนี้ขอพาเที่ยวนอกเกาะไต้หวันไปไกลถึงนิวซีแลนด์โน่นนนนนเลย

โปรแกรมเด็ดที่หนึ่งในผู้ร่วมทริปของเราไม่ยอมให้พลาด คือ

ตามรอยภาพยนตร์ชื่อดัง The Lord of the Rings และ The Hobbits

โดยไปถึงสถานที่ถ่ายทำที่ชื่อว่า  “Hobbits Movie Set”

ในภาพยนตร์เรื่อง The Lord of the Rings และ The Hobbits ส่วนใหญ่จะถ่ายทำที่เกาะใต้ของนิวซีแลนด์

แต่มีเพียง “The Hobbits Movie Set” นี่ล่ะ ที่อยู่ทางเกาะเหนือ

และการเข้าชมสถานที่ถ่ายทำที่นี่ ไม่สามารถเดินดุ่มๆ เข้าไปเที่ยวกันเองได้ ต้องมีไกด์พาเข้าไปเที่ยว

เราซื้อทัวร์ล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ของ “KKday” ราคาประมาณ 1,700 บาท

เค้าจะแบ่งการเข้าชมออกเป็นรอบๆ ดังนั้นตอนจองต้องระบุวันเวลาและรอบที่จะเข้าด้วย 

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมและจองทัวร์ผ่านลิงก์นี้ได้เลย

พอถึงรอบที่เราจองเอาไว้ เค้าจะพาเรานั่งรถทัวร์จากด้านหน้ามาตรงส่วนของที่ถ่ายทำภาพยนตร์

โดยมีไกด์ประจำแต่ละกลุ่มค่อยเดินนำ และอธิบายความเป็นมาเป็นไปของ Hobbiton Movie Set นี้

เราไม่เคยดูหนังทั้ง 2 เรื่องนี้มาก่อน เลยรู้สึกไม่ค่อยอินกับที่นี่มากนัก

แต่เพื่อนที่ไปด้วยกัน เลิฟมากกกกกกกก เพราะจะได้ฟังเบื้องหลังของหนังสุดโปรดด้วย

อันนี้ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเนอะ

Hobbiton Movie Set ตั้งอยู่ที่เมือง Matamata ทางเกาะเหนือของประเทศนิวซีแลนด์ 

มีเนื้อที่กว่า 1,250 เอเคอร์ หรือ 3,162.50 ไร่ ของเป็นครอบครัว Alexander

เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว Sir Peter Jackson นั่งเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจพื้นที่เพื่อหาสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่อง The Lord of the Rings

แล้วเผอิญมาถูกใจกับที่ดินผืนนี้เข้าให้ จึงได้มีการเซ็นสัญญาเช่าพื้นที่ในการถ่ายทำ

ถ่ายมุมบนมาให้ดูกันก่อน เพราะเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลย

ด้านบนสุดนั้นเป็นบ้านของ Frodo และ Bilbo 

ต้นโอ๊คที่เห็นอยู่ด้านบน ตอนที่ถ่ายทำเรื่อง The Lord of the Rings

เป็นต้นไม้จริงที่ถูกตัดเป็นส่วนๆ แล้วเอามาประกอบใหม่

แต่พอมีจะถ่ายทำเรื่อง The Hobbit ที่เป็นเรื่องราวก่อน Lord of the Rings ตั้ง 60 ปี

ทางผู้สร้างจึงต้องหาต้นไม้อ่อนๆ มาเข้าฉาก เมื่อมีต้นไม้ที่ส่งเข้ามา audition กัน ไม่มีต้นไหนหถูกใจเลย

ทางผู้สร้างจึงต้องสร้างต้นโอ๊คปลอมๆ ขึ้นมาใหม่ แต่ไฮไลท์อยู่ที่ว่า

ใบไม้ที่ประดับอยู่บนต้นโอ๊คนั้น สั่งผลิตจากโรงงานในไต้หวันจ้าาาาา 

แต่ตอนที่จะถ่ายทำ ใบไม้มันยังดูเขียวๆ ไป

ทางทีมงานต้องจ้างนักศึกษามาระบายสีใบไม้ทีละใบ เพื่อให้สมจริงยิ่งขึ้น

บ้านฮอบบิทแต่ละหลังนี่เราเข้าไปถ่ายรูปด้านในไม่ได้นะ

เค้าจะทำเป็นฉากหน้าเอาไว้ถ่ายทำอย่างเดียว

ยกเว้นบ้านของ Frodo ที่หลังใหญ่หน่อย แต่ก็เดินเข้าไปไม่ได้อยู่ดี

การเดินเที่ยวที่นี่ รู้สึกว่าจะรีบเร่งเกินไปหน่อย

ไกด์จะเล่าๆๆๆๆ เสร็จแล้วก็เดินนำหน้าเราไปยังบ้านหลังอื่น

แล้วกลุ่มหลังก็จะเดินตามกันมาติดๆ

เราต้องคอยหาช่องทางถ่ายรูปเอาเอง คนถ่ายรูปไม่เก่งอย่างเราก็ได้แต่กดๆๆๆ ชัตเตอร์มา

สวยบ้าง ไม่สวยบ้าง ก็ว่ากันไป

ตอนแรกมีการสร้างบ้านฮอบบิทเอาไว้ 37 หลัง

แต่หลังจากซ่อมแซมบ้านในปี ค.ศ. 2011 ได้เพิ่มจำนวนบ้านเป็น 44 หลัง

รวมไปถึงสถานที่สำคัญในหมู่บ้านอีกด้วยเช่น Green Dragon Pub

และต้นไม้ใหญ่ที่ชาวฮอบบิทมักจะมาใช้เป็นสถานที่เพื่อเฉลิมฉลองกัน

เสื้อผ้าของฮอบบิทเค้าก็ตากกันกลางแจ้งแบบนี้เลย

ตอนถ่ายทำ เค้าจะมีการเก็บเสื้อผ้าในตอนเย็น แล้วเอามาตากใหม่ในตอนเช้าด้วย

เพื่อต้องการให้มีรอยเท้าเหมือนมีคนมาเดินจริงๆ

บ้านของฮอบบิทบางหลังแบบเดียวกัน แต่จะมี 2 ขนาด

เพราะเค้าเอาไว้ใช้ถ่ายทำตัวละครที่ขนาดต่างกัน

หน้าบ้านของฮอบบิทแต่ละหลังจะมีอุปกรณ์ตกแต่งต่างๆ ที่บ่งบอกที่อาชีพของเค้าด้วย

เช่น บ้านหลังนี้เป็นฮอบบิทที่ขายขนมปัง

หรือบางหลังก็ขายชีส ขายปลาเค็ม เป็นต้น

พวกเราค่อยๆ เดินไต่เนินขึ้นมาเรื่อยๆ

พอขึ้นมาถึงด้านบน ก็จะเห็นบรรยากาศด้านล่างแบบนี้

ลืมบอกว่า ทริปนี้เราใช้ pocket wifi ของ Smile Wifi ด้วย

การเอาไปใช้งานที่นิวซีแลนด์ แบ่งแพคเกจออกเป็น 2 อย่าง คือ

500MB ราคา 290 บาท/วัน และ 1GB ราคา 440 บาท/วัน

จองผ่านเว็บไซต์ แล้วไปรับเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ หรือสนามบินดอนเมืองได้เลย สะดวกมากๆ

กดลิงก์นี้เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติม และจองกันได้เลย

มาถึงบ้าน Frodo และ Bilbo ที่เล่าไปตอนต้นแล้ว

บ้านหลังนี้มีขนาดใหญ่กว่าหลังอื่นๆ แต่ก็มีป้าย “ห้ามเข้า” ติดไว้ด้วย

ฉะนั้นการเที่ยว Hobbiton Movie Set ที่นี่ ก็จะเก็บภาพได้เฉพาะด้านหน้าบ้านเท่านั้นล่ะ

ด้วยความที่ต้องเดินตามให้ทันกับไกด์ประจำกลุ่มของเรา

ประกอบกับเวลาที่เร่งรีบ เราเลยไม่มีโอกาสได้เปลี่ยนเป็นเลนส์ไวด์สักที

จะเก็บภาพได้แต่รูปหน้าบ้านแบบนี้ ไม่ได้เห็นบรรยากาศรอบๆ บ้านสักเท่าไหร่นะ

ไกด์เล่าให้ฟังว่า

การสร้างบ้านฮอบบิทนี้ เค้าจะใช้ไม้พื้นเมืองขนาดใหญ่ประกอบเป็นบ้าน

และใช้น้ำส้มสายชูทำให้เนื้อไม้เป็นสีเทาดำเข้ม

แล้วยังผสมตะไคร่น้ำ สี และกาวบนคานเพื่อให้ทุกอย่างดูเก่าๆ สมจริงอีกด้วย

ทัวร์หมู่บ้านฮอบบิทเสร็จแล้ว เรากำลังจะเดินไปที่โรงเตี้ยม Green Dragon 

เพื่อร่วมเฉลิมฉลองหลังจากจบทริป

ที่เห็นอยู่ฝั่งโน้น คือ สะพานหิน  โรงสี และกรีน ดราก้อน อินน์ ซึ่งเป็นเสมือนโรงเตี้ยม 

เดี๋ยวเราจะไปนั่งจิบเบียร์กันตรงนั้นนั่นล่ะ

เบียร์ที่เราจะได้ชิมวันนี้ รวมอยู่ในแพคเกจค่าทัวร์เข้าชม Hobbiton Movie Set นี้แล้ว

และเป็นเบียร์พิเศษ ที่ทางทีมงานปรุงขึ้นมาสำหรับงานเลี้ยงที่อยู่ในฉากจริงๆ

ซึ่งเบียร์ที่มีแอลกอฮอล์น้อย เพียงที่นักแสดงจะได้ถ่ายทำกันต่อได้

ถ้าใครเป็นแฟนพันธ์แท้ของภาพยนตร์เรื่อง The Lord of the Rings และ The Hobbiton 

ถ้ามีโอกาสได้มาเที่ยวนิวซีแลนด์ ก็ลองแวะมาเยี่ยมชมกันดูนะคะ

น่าจะทำให้อินและหลงรักภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นอีกเยอะเลย

จบทริปพวกเราก็นั่งบัสกลับไปที่ด้านหน้ากันต่อ

ตรงส่วนหน้ามีทั้งคาเฟ่ และร้านขายของที่ระลึก

พวกเราหมดเงินกับที่นี่ไปกันไม่น้อย มัวแต่ช็อปปิ้งกันเพลิน ลืมถ่ายรูปเลย 

พิกัดนี้เลย :

Hobbiton Movie Set

Address: 501 Buckland Rd, Hinuera, Matamata 3472, New Zealand

Open : 09.00-17.30

Location : https://goo.gl/maps/NcE9V8vjvXN2