สำหรับการขับรถเที่ยวจอร์เจีย เราขอแนะนำว่า ควรมีคนช่วยดูถนนหนทางด้วย เพราะถนนบางที่ก็สับสนวุ่นวายเหลือเกิน เช่น กลับรถเลนกลาง เลี้ยวปุ๊บขึ้นสะพานปั๊บ ทางแยกมากมาย เลี้ยวผิดชีวิตเปลี่ยน ไปวนอีกค่อนรอบ หลุ่มบ่ออย่างเยอะ เพื่อนบอกว่า ไม่สามารถละสายตาจากถนนดูวิวข้างทางได้เลย อ้าว ตกหลุ่มอีกล่ะ และในเมืองส่วนใหญ่ เป็นทางขึ้นเขาขึ้นเนินน้อยๆ รถจอดสองข้างทาง บางที่มันก็จอดค่อมฟุตพาท (ทางเท้า) นั่นล่ะ ต้องช่วยกันดูว่า ซ้ายพ้นมั้ย ขวาห่างมั้ย
บริษัทรถเช่าจะเตือนให้ ระวังเรื่องความเร็วเกินกำหนด เพราะบางที่ ถ้าขับเร็วเกิน ตำรวจขับมาปาดแล้วปรับกันตรงนั้นเลย หรือบางทีเวลาที่คืนรถ เค้าสามารถเช็กได้เลยว่า มีค่าปรับมั้ย หรือโดนปรับเท่าไหร่
เห็นจอร์เจียดูเข้มงวดกับกฏหมายจราจรขนาดนี้ ก็ใช่ว่าคนจอร์เจียเค้าจะขับรถกันมีระเบียบวินัยนะ นึกอยากปาดพี่ก็ปาด นึกอยากเลี้ยวพี่ก็เลี้ยว บางทีก็จอดรถตามทางแยกทางเลี้ยวนั่นล่ะ
ตอนแรกเห็นตัวเลขในป้ายจำกัดความเร็วก็สงสัยว่า หน่วยเป็น “กิโลเมตรต่อชั่วโมง” (KPH) หรือ “ไมล์ต่อชั่วโมง” (MPH) เพราะเราจะคุ้นเคยกับ KPH มากกว่า แต่ตัวเลขก็ดูน้อยๆ ชอบกล แต่มาได้ข้อสรุปตรงหน้าปัทม์รถยนต์นี่ล่ะ ตัวเลขใหญ่ๆ เขียนชัดๆ เลยว่า MPH สรุปคือ “ไมล์ต่อชั่วโมง” ค่อยยังชั่วหน่อย แสดงว่าที่ผ่านมาพวกเรายังไม่ได้ใช้ความเร็วเกินกำหนด
ส่วนเรา…มาตายน้ำตื้นจ้า
จอดรถลงไปมินิมาร์ทไม่ถึง 10 นาที บริษัทรถเช่าโทรมาเลย ช่วยไปขยับรถหน่อย ตอนนี้ตำรวจรออยู่
พอมาถึงที่รถ ตำรวจยึดพาสปอร์ตกับใบขับขี่ แล้วก็ไม่พูดอะไร ไอ้เราก็งงสิว่าจะเอายังไง ทำไมไม่บอก จนต้องโทรหาบริษัทรถเช่าให้ช่วยคุย ได้ความว่า พวกเราจอดรถในที่ห้ามจอด ต้องจ่ายค่าปรับ 10GEL
ทีแรกก็นึกว่า จ่ายเงินสดให้กับตำรวจได้เลย ไม่ใช่นะจ๊ะ บริษัทรถเช่าต้องจ่ายค่าปรับทางออนไลน์ก่อน พอทางตำรวจได้รับแจ้งเงินโอนแล้ว เค้าก็จะออกใบเสร็จ และคืนพาสปอร์ตกับใบขับขี่มาให้ เบ็ดเสร็จไม่ถึง 10 นาที เรียบร้อยจ้ะ จ่ายไป 110 บาท ได้ประสบการณ์ตรงเพิ่มมาอีก 1 อย่าง 
วิธีการจ่ายค่าปรับจราจรยังมีอีกหลายแบบ ดูได้จากที่นี่ >>> https://georgia.gov/pay-traffic-ticket
สำหรับการแพลนเที่ยวจอร์เจีย เราจะใส่ระยะเวลาเดินทางจากโรงแรมหนึ่งไปยังอีกโรงแรมหนึ่ง เพื่อจะดูว่า วันนี้เราต้องใช้ระยะเวลาเดินทางประมาณเท่าไหร่ แบบที่ไม่แวะเที่ยวหรือแวะพักเลย และจะดูว่าเรามีเวลาในการเที่ยวแบบชิลหรือเร่งขนาดไหน
แต่เอาเข้าจริงๆ เวลาจาก google map เป็นเพียงแค่ guide line เท่านั้น เพราะเส้นทางที่เราไป ส่วนใหญ่จะเป็นทางขึ้นเขาแบบสองเลนสวนกัน ถนนเป็นหลุมบ่อ และมีการก่อสร้างถนนเป็นระยะๆ บวกกับบางเส้นทางรถบรรทุกวิ่งเป็นขบวนพาเหรดเลย นอกจากจะทำเวลาไม่ได้แล้ว บางช่วงยังติดขบวนรถบรรทุกนี่อีก
โดยเฉพาะทางที่จะไป Gudauri และ Kazbegi
(เห็นบางคนบอกว่า ติดอยู่เป็น 2-3 ชั่วโมงเลย แต่เราไม่เจอนะ) เส้นทางนี้เค้าใช้ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ รถบรรทุกถึงเยอะ และเป็นทางขึ้นเขา ถนนแคบๆ อุโมงค์เยอะอีก
ที่สำคัญมากๆๆๆๆ คือ ควรไปถึง Mestia ให้ได้ก่อนเย็นหรือค่ำ เพราะระหว่างทางมืดมาก เท่าที่สังเกตคือ แทบจะไม่มีเสาไฟส่องสว่างเลย ตรงจุดนี้น่ากลัวจริงๆ นะ สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยเส้นทาง ข้างนึงเป็นเขา ข้างนึงเป็นเหว
การหาที่จอดรถในเมือง Tbilisi จะยากนิดนึง โดยเฉพาะในโซนของเมืองเก่า Tbilisi Old Town ส่วนใหญ่เราจะวนประมาณ 2-3 รอบ และที่จอดรถจะอยู่ในซอกซอยนิดนึงนะ ถ้าเห็นว่ารถเราสามารถผ่านไปได้ ลองวิ่งเข้าไปดูก็ได้ ส่วนใหญ่ก็จะได้ที่จอดรถจากตรงนี่อะล่ะ หรือบางที่ก็จะมีที่จอดรถให้ มองหาป้ายสีน้ำเงินที่มีตัว P สีขาวใหญ่ๆ ก็ได้ ตรงนี้จะมีทั้งแบบเสียค่าจอดและไม่เสีย
ตอนนี้หลายเส้นทางในจอร์เจียกำลังทำถนน สร้างอุโมงค์อยู่นะ ถ้าใครไปช่วงนี้ ต้องเผื่อเวลาเดินทางสักนิดนึง แต่หลังจากนี้สัก 3-4 ปี ก็น่าจะสบายแล้ว คงวิ่งไปฉิวได้
ส่วนตัวคิดว่า ถ้าไม่ใช่ช่วงหน้าหนาวที่หิมะตก ถนนลื่น ขับรถเที่ยวจอร์เจียกันเองก็ดีเหมือนกันนะ อยากแวะไหน อยากเที่ยวไหน ก็ทำตามความต้องการได้เลย
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทักษะและประสบการณ์ในการขับรถของแต่ละคนด้วยนะ 
แล้วพบกันใหม่กับการเดินทางสะสมไมล์ต่อไปของเรานะคะ
..หนึ่งพันไมล์..
2022.04.26
