ทริปนี้เราเดินทางด้วยสายการบิน “บางกอกแอร์เวย์ส”
ซึ่งมีบินตรงระหว่างกรุงเทพ (สุวรรณภูมิ) – เชียงรายทุกวัน
ตรวจสอบตารางเวลาและค่าโดยสารได้ที่นี่
http://www.bangkokair.com/tha
และการบินกับ “บางกอกแอร์เวย์ส” ก็ดีตรงที่มีห้องรับรองพิเศษ และห้องรับรองธุรกิจ (เลาจน์) นี่ล่ะ
มีทั้งอาหาร ขนม และเครื่องดื่มไว้ให้บริการก่อนบินด้วย
“ข้าวต้มมัด” จัดว่าเป็นซิกเนเจอร์ของ “บางกอกแอร์เวย์ส” เลย
บินกับ “บางกอกแอร์เวย์ส” ทีไรเป็นต้องจัดสิ่งนี้ตลอดๆ
กลิ่นหอม และรสชาติไม่หวานเกินไป เราชอบข้าวต้มมัดแบบที่ใส่ถั่วดำอย่างนี้อยู่แล้วด้วย
อยู่ในเลาจน์กินข้าวเช้ารองท้องไปได้ครึ่งกระเพรา
มาถึงบนเครื่องก็มีอาหารแบบเต็มชุดเสิร์ฟอีก เช้านี้เป็น ก๋วยเตี๋ยวไก่กับผลไม้
ใช้เวลาไม่นาน ประมาณชั่วโมงนิดๆ เราก็มาถึงที่สนามบินเชียงรายอย่างปลอดภัย
งานนี้ AVIS เป็นผู้สนับสนุนเรื่องรถใช้ระหว่างทริปนี้ด้วย
เพื่อความไม่ประมาทเราเลือกทำประกันอุบัติเหตุเพิ่มต่างหาก
เราว่านั่งเครื่องบินแล้วมาเช่ารถแบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ ย่นระยะเวลาเดินทาง และไม่เหนื่อยมากด้วย
หากสนใจลองเข้าไปดูในเว็บไซด์ของ AVIS ได้นะคะ
http://www.avisthailand.com/TH/
https://www.facebook.com/avisthai/
ขับรถออกจากสนามบินเชียงรายไปไม่ทันไร ก็ถึงจุดแวะพักแรกของทริป
พิกัดที่ 1 : สับปะรดภูแล ริมถนนพหลโยธิน
ริมถนนพหลโยธินเส้นเชียงราย – แม่สาย
ระหว่างทางจากสนามบินไปดอยแม่สลอง เห็นร้านขายสับปะรดตั้งเรียงรายกันอยู่
สับปะรดของจังหวัดเชียงรายขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยอยู่แล้วด้วย เราจึงเลือกซื้อชิมสักร้าน
แม่ค้าบอกว่า ช่วงหน้าหนาวแบบนี้เหมาะที่จะกินสับปะรดภูแล เนื้อหวานกรอบได้ที่
“สับปะรดภูแล” จริงๆ แล้ว เกิดจากการนำหน่อพันธ์สับปะรดจากภูเก็ต
มาปลูกในพื้นที่ของตำบลนางแล จังหวัดเชียงราย จึงได้ชื่อว่า “สับปะรดภูแล” จ้า
ระหว่างทางจะขึ้นดอยแม่สลอง มีป้ายบอกให้เลี้ยวขวาไป “ไร่ชาฉุยฟง”
ช่วงนี้นักท่องเที่ยวขึ้นมาสัมผัสอากาศหนาวที่เชียงรายกันเพียบ
ตั้งใจจะไปชิมเค้กชาเขียวและชาเชียวปั่นของที่นี่ซะหน่อย แต่เจอคนเยอะๆ แล้วไม่ไหว ถอยดีกว่า
โตโยโต้วีออสที่ทาง AVIS จัดไว้ให้เราขับขึ้นมาบนดอยแม่สลองได้สบายมาก
อาหารเช้าจากในเลานจ์และบนเครื่องของบางกอกแอร์ย่อยหมดแล้ว เริ่มมองหาร้านอาหารต่อเลย
ใกล้ๆ กับหลักกิโล “แม่สลอง 0 กม.” มีร้านอาหารสไตล์จีนยูนานอยู่หลายร้าน เราเลือกร้านนี้
พิกัดที่ 2 : ผิงผิงโภชนา
496 หมู่ 1 ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย
https://goo.gl/maps/HFhUeqGqZfB2
มาถึงที่ดอยแม่สลองต้องไม่พลาดชิม “ขาหมูหมั่นโถว” ถือว่าเป็นเมนูขึ้นชื่อของที่นี่เลย
อากาศเย็นๆ ต้องเพิ่มไขมันให้กับร่างกายสักหน่อย เผื่อจะอุ่นขึ้นเนอะ
ลองสั่งหมั่นโถวทั้งแบบนึ่งและแบบทอดมาอย่างละ 1 ลูก
แต่เสียใจอ่ะ หมั่นโถวทอดอมน้ำมันไปหน่อย รู้สึกเหม็นหืน และเลี่ยน
แต่ยำใบชา และ เห็ดหอมทอด อร่อยเลย กินแก้เลี่ยนได้ดี
ขึ้นมาถึงดอยแม่สลองทั้งที อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรพลาด ก็คือ การจิบชา
เราเลือกมาชิมชาที่ เพราะเห็นบรรยากาศดี
พิกัดที่ 3 : บ้านหอมหมื่นลี้
90 หมู่ 1 ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย
https://goo.gl/maps/9TwBz7FeHJ32
อยู่ตรงข้ามกับสวีทแม่สลองคาเฟ่เลย
ถ้าใครไม่ชอบจิบชา แต่อยากกินเค้กและเครื่องดื่มเย็นๆ ก็ข้ามฝั่งไปได้นะ
ตรงส่วนของ “บ้านหอมหมื่นลี้” มีห้องพักด้วย เอาไว้ต้องหาโอกาสไปพักบ้างแล้ว
พิกัดที่ 4 : Melt In Your Mouth
268 หมู่ 12 ถนนเกาะลอย ตำบลรอบเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
https://www.facebook.com/meltinyourmouthchiangrai
https://goo.gl/maps/376XmPxZfSM2
หลังจากที่ขอให้แฟนเพจช่วยแนะนำร้านอาหารน่าชิมในเชียงรายให้หน่อย
ร้านนี้ก็เป็นอีกหนึ่งแห่งที่มีเพื่อนๆ แนะนำเข้ามา
ร้านตกแต่งได้น่านั่งมากๆ บรรยากาศดี เหมาะแก่การมานั่งรับลมชมวิวริมแม่น้ำกกยามเย็นๆ
วันนี้ขอลองเมนูขึ้นชื่อของทางร้าน คือ Panna Cotta เนื้อเนียนนุ่ม และไม่หวานมาก
พร้อมกับเค้กมะพร้าวอ่อน และชอคโกแลตเย็น (ชื่อเค้าหรูกว่านี้นะ แต่เราจำไม่ได้ ^^)
สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคยกับการเข้าร้านอาหารประเภทคาเฟ่อย่างเรา
รู้สึกว่าราคาอาหารแพงไปนิด แต่ถ้าเทียบกับคุณภาพของวัตถุดิบ และบรรยากาศของร้าน
ก็คงจะสมน้ำสมเนื้อกันล่ะ
เมื่อมีของหวานลงไปนอนรออยู่ในกระเพาะแล้ว ก็ถึงเวลาของคาวบ้าง
ปีที่แล้วเราเคยพาที่บ้านไปกินข้าวต้มที่ร้านนี้แล้วติดใจ ปีนี้จึงต้องจัดอีก
พิกัดที่ 5 : ข้าวต้มมีนา
685/1 ถนนพหลโยธิน ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
https://www.facebook.com/khawtommeena
https://goo.gl/maps/AuP2Dkm21Xk
ร้านนี้อยู่แถวๆ หอนาฬิกาเชียงราย และถนนคนเดินเชียงราย กินอิ่มก็ยังมาเดินย่อยที่นี่ได้
ช่วงที่เราไปเหมือนมีทัวร์มาลง ลูกค้าเต็มแน่นร้านเลย
ต้องมาสั่งอาหารที่ด้านหน้าร้าน และยกกลับไปที่โต๊ะเอง
เมนูที่ทำให้ติดใจจนต้องกลับมาซ้ำ คือ ยำไส้กรอกยูนาน
ยำไส้กรอกยูนาน คล้ายๆ กับยำกุนเชียงเลย เพียงแต่ว่ามีไข่เค็มอยู่ข้างใน
และน้ำยำของร้านนี้รสชาติเปรี้ยว เค็ม หวาน กำลังดี คีบเข้าปากได้เพลินๆ
เต้าหู้หมูแดง เมนูนี้ก็น่าสนใจ ยังมี ยำหมูยอ กับ ผัดกุยช่ายขาวหมูกรอบ อีก
ควรจะปิดจ็อบของวันนี้เพียงเท่านี้เนอะ
คืนแรกที่เชียงราย เรามาพักที่นี่
โรงแรมเดอะ มันตรินี เชียงราย (The Mantrini Chiang Rai)
http://www.mantrini.com/th
https://goo.gl/maps/VWqHA8PZJd42
ที่นี่เดินทางสะดวกมาก อยู่ใกล้กับห้างเซ็นทรัลพลาซ่า ห่างจากตัวเมืองแค่ 2 กม.
สภาพห้องพักใหม่เอี่ยม เปิดประตูหลังห้องออกมาก็เจอสระว่ายน้ำเลย
เสียดายเวลาน้อยไปนิด ไม่ได้ว่ายน้ำท้าทายความหนาวเลย ?
แม้จัดการอาหารเช้าที่โรงแรมไปจนอิ่มแล้ว แต่เรายังคงต้องปฏิบัติหน้าที่กันต่อ
ร้านอาหารเช้าชื่อดังแห่งเชียงราย เคยลงลิสต์ไว้หลายรอบแล้ว แต่ก็มาไม่ถึงซะที
ครั้งนี้ไม่พลาดๆๆๆ
พิกัดที่ 6 : กาแฟรถเหลือง
ใกล้หอนาฬิกา ถนนบรรพปราการ ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
https://goo.gl/maps/Yv3fbsXRz6x
จุดเด่นของร้านนี้ก็คือรถกระบะสีเหลืองๆ โดดเด่นนี่ล่ะ อยู่หอนาฬิกาเชียงราย
เมนูอาหารก็จะเป็นอาหารเช้าทั่วไป คือ ไข่ดาว ขนมปังปิ้ง ไส้กรอก-แฮม น้ำส้มคั้ม
หรือจะเป็นไข่ลวก ปาท่องโก๋ และเครื่องดื่มร้อนๆ
วันนี้เราเลือกชิม ไข่กระทะ + ขนมปังปิ้ง ชุดนี้ 40 บาทเอง
มาถึงเชียงรายแล้ว ต้องแวะสักการะ “อนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช” ให้ได้นะ
“พ่อขุนเม็งราย”
ทรงเป็นปฐมกษัตริย์ แห่งราชวงศ์มังราย และรวบรวมบ้านเมืองเข้าเป็นอาณาจักรล้านนา
และทรงสร้างเมืองเชียงรายขึ้นเป็นเมืองแรกเมื่อ พ.ศ. 1805
จากนั้นมาไหว้พระต่อที่ “วัดพระแก้วมรกต เชียงราย” ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงราย
และเป็นวัดที่ค้นพบพระแก้วมรกตองค์ที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระแก้ว กรุงเทพ
อีกหนึ่งงานที่ถือเป็นไฮไลท์ของจังหวัดเชียงรายในช่วงหน้าหนาวคือ
งาน “เชียงรายดอกไม้งาม” ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 12 แล้ว ระหว่างวันที่ 23/12/15 – 14/2/16
ที่สวนสาธารณะกลางเมือง (สวนตุงและโคมฯ)
มีดอกไม้เมืองหนาวหลากหลายชนิด ไปช่วงอากาศเย็นๆ เดินเล่นและถ่ายรูปเพลินๆ
พิกัดที่ 7 : ร้านอาหารหลู้ลำ
188/8 หมู่ที่ 20 ถนนแควหวาย ตำบลรอบเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
http://lulumchiangrai.com/
https://goo.gl/maps/p8aUab59j5N2
มาถึงเมืองเหนือ ก็ต้องกินอาหารเหนือสิเนอะ
“หลู้ลำ” ร้านนี้เห็นมีหลายคน และหลายเว็บไซต์แนะนำเอาไว้ งั้นเราต้องมาลองบ้าง
ร้านตั้งอยู่ริมแม่น้ำกก และเราก็ได้ที่นั่งริมน้ำพอดีเลย สัมผัสบรรยากาศสบายๆ
สั่งเมนูเบาๆ 3 อย่าง คือ น้ำพริกหนุ่ม แกงไข่มดแดง และ แกงฮังเล
ช่วงที่ไปคนเยอะ และทัวร์ลง (อีกแล้ว) ทำให้รออาหารนานนิดนึง
โดยส่วนตัวอาหารไม่ค่อยถูกปากเรา น้ำพริกหนุ่มจืดๆ และผักลวกเย็นชืดเกินไป
น่าจะเป็นเพราะอากาศเย็น และทำเตรียมไว้นานก็ได้
เรื่องของรสชาติอาหารนี่ต้องแล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลเนอะ
หลายๆ คนคอนเฟิร์มว่าที่นี่อาหารอร่อย ยังไงก็ต้องไปลองให้รู้ด้วยตัวเองล่ะ
ระหว่างลังเลว่าจะกินต่อหรือหยุดพักก่อนดี ???
สรุปว่ามาปรากฏกายที่นี่
พิกัดที่ 8 : ไร่ขุนเขาสตรอเบอรี่
ออกจากศูนย์ปฏิบัติธรรมบ้านไร่เชิญตะวันแล้วเห็นป้ายทางไปไร่ขุนเขาสตรอเบอรี่
เลี้ยวรถไปดูหน่อยแล้วกันว่าเป็นยังไงบ้าง
“ไร่ขุนเขาสตรอเบอรี่” ที่นี่เค้าปลูกสตรอเบอรี่แบบปลอดสารพิษด้วยนะ
เค้าใช้ยาฆ่าแมลงแบบที่ทำจากธรรมชาติแทน และปลูกพืชผักที่ไล่แมลงรอบๆ แปลงด้วย
ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างการทดลองปลูก ผลผลิตที่ได้อาจจะยังไม่มากนัก
ถ้าใครสนใจจะไปเก็บสตรอเบอรี่ที่นี่ ควรไปตอนเช้าๆ นะ
เราไปถึงก็เกือบเย็นแล้ว เหลือสตรอเบอรี่อยู่ 2 ลูก ^^
ระหว่างทางกลับมาที่ตัวเมืองเชียงราย ยังเลือกร้านอาหารเย็นไม่ถูก
ไม่รู้จะกินแบบเบาๆ เพื่อให้ผ่านไปมื้อนึงดี หรือจะจัดหนัก เอาให้เต็มที่ไปเลย ผ่านร้านนี้
เห็นรถจอดกันเยอะๆ คิดว่า ที่นี่ต้องมีทีเด็ดแน่นอน เลี้ยวรถแวะลงมาชิมทันที
พิกัดที่ 9 : จุ๋ยกุ้งเผา
3 บ้านโป่งฮึ้ง หมู่ 1 ตำบลห้วยสัก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
https://goo.gl/maps/f6ChSwwJKKs
ร้านนี้นอกจากจะมีอาหารจานหลัก ที่เน้น “กุ้ง” เป็นตัวเอกแล้ว
ยังมีคาเฟ่เล็กๆ ที่ขายเบเกอรี่และเครื่องดื่มด้วย แต่เรามาเพื่อกินอาหารหนัก ^^
สั่งกุ้งแบบคัดพิเศษมา 1 กก. ทำอาหารได้ 2 อย่าง ก็เลยเลือกเมนูแบบเบสิค คือ
กุ้งเผา และต้มยำกุ้งน้ำข้น ตามด้วย ยำผักบุ้งฝอยปูม้า อีก 1อย่าง
กุ้งสดเนื้อแน่นใช้ได้เลย น้ำจิ้มแซ่บมาก ส่วนต้มยำก็เข้มข้น และยำจี๊ดจ๊าดถึงใจ อร่อยๆ