เช่น การเดินทางจากสนามบินเถาหยวนไปที่อาลีซาน ก็คือ
1. นั่งรถไฟฟ้า (MRT) จากสนามบินเถาหยวน ทั้งเทอมินัล 1 และ 2 ไปลงที่ MRT Taoyuan HSR Station
2. ต่อรถไฟความเร็วสูงจาก HSR Taoyuan → HSR Chiayi
3. นั่งรถบัสไปที่อาลีซาน
หรือถ้าใครจะเริ่มต้นจากไทเป ไถจง ไถหนัน หรือเกาสง ก็ใช้วิธีการเดียวกัน คือ นั่งรถไฟความเร็วสูง (HSR) หรือรถไฟ (TRA) จากสถานีตั้งต้น ไปที่ HSR Chiayi หรือ TRA Chiayi) แล้วนั่งรถบัสไปที่อาลีซาน
♥ ♥ ♥ หรือถ้าอยากจะไปจริง ๆ ยังมีอีกหนึ่งทางเลือก คือ ซื้อทัวร์กับ KKday ก็ได้ >>> https://bit.ly/taipei_to_alishan
ซึ่งเป็นตั๋วรถบัสแบบไป-กลับ แต่ไม่รวมค่าเข้าอุทยาน และอาหาร
ขากลับ รถออกจาก Alishan Bus Station วันเสาร์ เวลา 11.30 น.
เพื่อจะไม่ต้องเสียเวลา หรือพลาดเที่ยวรถ เวลาวางแผนการเดินทาง อย่าลืมดูตารางเวลารถบัสจาก Chiayi – Fenchihu – Alishan ประกอบด้วย
– ถ้าใครต้องการแวะเที่ยวที่เฟิ่นฉี่หู (Fenchihu) ต้องเลือกรอบรถบัสที่ผ่าน Fenchihu ด้วย ไม่อย่างนั้นรถบัสจะวิ่งตรงจาก Chiayi ขึ้นไป Alishan เลย
– ค่าโดยสารรถบัส สามารถจ่ายด้วยบัตร EasyCard , iPASS ได้เลย แต่ถ้าจ่ายด้วยเงินสด ต้องเตรียมเงินไปให้พอดี เพราะคนขับรถไม่มีเงินทอน
– ไม่สามารถจองตั๋วรถบัสล่วงหน้าทางออนไลน์ได้
ซื้อตั๋วรถบัส Chiayi – Alishan และค่าเข้าอุทยานแห่งชาติอาลีซานได้ที่ KKday และ Klook
แต่การซื้อตั๋วรถบัสล่วงหน้านี้ ไม่สามารถระบุที่นั่งได้ และต้องซื้อตั๋วแบบไป-กลับเท่านั้น
KKday : http://bit.ly/3lefOCQ
Klook : http://bit.ly/3mKNKrb
ที่ TRA Chiayi จะมีรอบรถบัสขึ้นอาลีซานมากกว่า HSR Chiayi ถ้าใครมาถึงที่ HSR Chiayi แล้วไม่อยากรอ นั่งรถบัส BRT ที่ให้บริการระหว่าง TRA Chiayi และ HSR Chiayi ก็ได้ ให้บริการฟรี ไม่ต้องเสียค่าโดยสาร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที
เหมือนอย่างทริปนี้ เราเริ่มต้นที่ HSR Taichung วิธีการเดินทางก็ง่ายๆ คือ นั่งรถไฟความเร็วสูงจาก HSR Taichung → HSR Chiayi
ถ้าใครอยู่แถวสถานีรถไฟไถจง นั่งรถไฟจาก TRA Taichung → TRA Xinwuri แล้วเดินตามทางเชื่อมมาที่สถานีรถไฟความเร็วสูง HSR Taichung ได้เลย
ตอนจองตั๋วรถไฟความเร็วสูงอย่าลืมดูเรื่องระยะเวลาเดินทาง และสถานีที่จอดด้วยนะ แม้สถานีต้นทางกับปลายทางเหมือนกัน แต่บางขบวนถึงเร็วกว่า เพราะจอดแค่บางสถานีเท่านั้น แต่บางขบวนจอดทุกสถานีเลย
ตอนนี้มีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซื้อตั๋วรถไฟความเร็วสูง 1 แถม 1 ด้วย สิ้นสุดวันที่ 31/5/24
KKday >>> https://bit.ly/3g17Ie9
Klook >>> http://bit.ly/3XfLftT
เฉพาะเส้นทางลงใต้เท่านั้น จาก Taipei / Taoyuan → Taichung / Changhua / Yunlin / Chiayi / Tainan / Zuoying (Kaohsiung)
ขากลับสถานีปลายทางมีเฉพาะ Taichung / Changhua / Yunlin / Chiayi / Tainan / Zuoying (Kaohsiung)
ซื้อได้เฉพาะคนต่างชาติที่เดินทางไปเที่ยวในไต้หวันเท่านั้น
ซื้อได้ครั้งละ 2 ใบ = 2 คน
รายละเอียดเพิ่มเติม >>> HSR Buy 1 Get 1 Free!
ถ้าใครจองที่นั่งไม่ได้ หรือเที่ยวที่ต้องการไปที่นั่งเต็ม จะมีตู้ 10-12 ของทุกขบวนที่เป็นตู้ non-reserved seats หรือแบบไม่จองที่นั่ง มาขึ้นที่ตู้นี้ได้เลย ถ้ามีที่นั่งว่างอยู่ จะนั่งตรงไหนก็ได้ แต่ถ้าไม่ว่าง ก็ต้องยืน
ตั้งแต่วันที่ 1/9/23 เป็นต้นไป HSR เปลี่ยนตู้ non-reserved seats จากตู้ 10-12 เป็น ตู้ 2-8 เพื่อให้เกิดการใช้รถไฟความเร็วสูงได้เต็มที่ และเป็นการบาลานซ์ขบวนรถด้วย แต่ทั้งนี้ต้องเช็กก่อนที่จะขึ้นทุกครั้ง เพราะไม่ได้กำหนดตายตัวเหมือนเมื่อก่อน
ครั้งนี้เราจะแวะเฟิ่นฉี่หู (Fenchihu) ด้วย และไม่อยากเที่ยวแบบรีบๆ และขี้เกียจลากกระเป๋าไปมาด้วย ก็เลยเลือกที่จะเหมารถแท็กซี่จาก HSR Chiayi ทีเดียวเลย ให้เค้าพาแวะเที่ยวเฟิ่นฉี่หูก่อน แล้วค่อยไปส่งที่โรงแรมบนอาลีซาน ค่ารถแบบเหมา คือ NT$2,500 (ุถ้าไม่แวะเฟิ่นฉี่หู ค่าเหมารถประมาณ NT$2,000 จาก HSR Chiayi ตรงดิ่งขึ้น Alishan เลย)
***การเหมารถเที่ยวก็สะดวกดี ไม่ต้องคอยห่วงเรื่องเวลารถบัส ส่วนใหญ่เค้าจะพาแวะเที่ยวกลางทางด้วย แต่ข้อเสียอย่างหนึ่งคือ เราต้องจ่ายค่าเข้าอุทยานเต็มๆ คนละ NT$300 เพราะถ้านั่งรถบัสโดยสารขึ้นอาลีซาน จะได้ส่วนลด 50% เหลือแค่ NT$150 เอง
ถ้าอยากรู้ว่าเฟิ่นฉี่หูมีอะไรให้เที่ยว รอดูบรรยากาศที่เราเคยรีวิวเอาไว้ก่อนได้นะคะ >>> https://www.1000milesjourney.com/alishan/
เหมือนเป็นไฮไลท์ของการมาเที่ยวเฟิ่นฉี่หู คือ ข้าวกล่องรถไฟ เราเลือกร้านของ Fenchihu Hotel อยู่ตรงถนนโบราณ Fenchihu Old Street เลย เค้ามีแบบชุดหมู ชุดละ NT$150 และหมู+ไก่ (ไม่แน่ใจเรื่องราคา) ได้แต่ข้าว ไม่ได้กล่องนะ ถ้ากินเสร็จต้องเอากล่องข้าวคืนเค้าด้วย
แต่ถ้าใครอยากได้กล่องข้าวเป็นของที่ระลึกกลับบ้าน ทางร้านก็มีขาย ซึ่งมีทั้งแบบกล่องสแตนเลสและกล่องไม้ เค้าจะเอาของใหม่มาให้เลย
และนี่คือสิ่งที่ทำให้เราอยากกลับมาเที่ยวเฟิ่นฉี่หูที่สุด นั่นคือ โดนัทย่าง
ร้านนี้เป็นร้านดั้งเดิมที่ขายมาหลายสิบปี แต่ตอนที่เราไปถึง เค้าขายหมดแล้ว นี่ขนาดยังไม่บ่าย 2 เลยนะ แต่คนเข้าแถวยาวเหยียดและจองกันเต็มหมดแล้ว อดเลย อุตส่าห์ตั้งใจมากิน
หน้าตาโดนัทย่างที่อยากกินเป็นแบบนี้ล่ะ ตัวแป้งจะคล้ายๆ ครัวซองต์ แต่เค้าไม่ได้เอาไปทอด แต่เอาไปอบคล้ายๆ การทำวาฟเฟิล ทำให้ตัวแป้งข้างนอกกรอบ แต่ข้างในยังนุ่ม ชิ้นละ NT$25
แอบเฟลที่ไม่ได้กินโดนัทย่างเจ้าดังเจ้าอร่อย เราก็เดินมาเรื่อยๆ จนถึงตรงต้นทาง Fenchihu Old Street มีร้านขายเหมือนกันเลย แถวก็ยาวอยู่ แต่ด้วยความอยากชิม ก็เลยไปต่อแถวกับเค้าดูบ้าง เกือบๆ ครึ่งชั่วโมงเลย สรุปคือ ก็โอเคอยู่นะ อร่อยใช้ได้
ไฮไลท์อีกอย่างหนึ่งที่เฟิ่นฉี่หู คือ การนั่งรถไฟโบราณ สาย Alishan Forest Railway เพื่อชมวิวระหว่างสองข้างทาง สถานีเริ่มต้นอยู่ที่ Chiayi แต่เป็นคนละที่กับ TRA Chiayi นะ และตอนนี้สถานีปลายทางอยู่ที่ Shizilu ยังขึ้นไปไม่ถึง Alishan แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปเที่ยวอาลีซานต่อ ส่วนใหญ่จะมาลงที่สถานี Fenchihu นี่ล่ะ เพราะมีรถบัสต่อขึ้นไปอาลีซานเยอะกว่า และสะดวกมากกว่า
ดูรีวิวเพิ่มเติมได้จากที่นี่ >>> [รีวิวไต้หวัน] ตอนที่ 60 : Alishan Forest Railway เส้นทางรถไฟสวยติดอันดับโลก
สำหรับคนที่นั่งรถโดยสารสาธารณะขึ้นมา รถจะจอดตรงจุดนี้ Alishan Transport Station รถบัสไม่ได้เข้าไปส่งข้างในเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เวลาจองโรงแรม แนะนำให้หาแบบที่มีรถรับส่งระหว่างโรงแรมกับที่นี่ด้วย ไม่อย่างนั้น เดินเหนื่อยมากๆ ด้วยความที่เป็นเขา มีทางขึ้นลงเนิน ไหนจะกระเป๋าสัมภาระอีก
ขากลับก็ต้องออกมาขึ้นรถบัสที่นี่เหมือนกัน
ประตูทางเข้าสู่อาลีซาน จะมีเจ้าหน้าที่คอยเก็บค่าผ่านประตูอยู่ตรงนี้
ค่าผ่านประตู ราคาปกติคนละ NT$300 เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี และผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป ครึ่งราคา
แต่ถ้าเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะ ค่าผ่านประตูของทุกคน จะลด 50% ราคาปกติจะเหลือคนละ NT$150 เท่านั้น
แท็กซี่มาส่งพวกเราถึงหน้าโรงแรมเลย
ครั้งนี้เราเลือกนอนที่ Chin Shan Hotel ซึ่งราคาถูกที่สุด และมีห้องพักว่างพอดี ห้องที่เรานอนเป็นแบบ Double Room ราคา N$2,400 รวมอาหารเช้า แต่โรงแรมไม่มีลิฟท์นะ ต้องขนกระเป๋าขึ้นมาบนห้องพักเอง เราจองกับโรงแรมโดยตรงเลย ต้องจ่ายเงินมัดจำล่วงหน้าด้วย โดยการโอนผ่านบัญชีธนาคารไต้หวันเท่านั้น ซึ่งตรงนี้จะยุ่งยากสำหรับคนต่างชาติสักนิด แต่ของเราให้เพื่อนไต้หวันโอนเงินมัดจำให้
ถ้าใครไม่สะดวกจองตรง เห็นใน agoda มีให้จองอยู่ค่ะ >>> Chin Shan Hotel
นอกจากนี้ทางโรงแรมมีทัวร์พาไปชมพระอาทิตย์ตกด้วย ค่าบริการคนละ NT$120 แต่มีรับประกันด้วยนะ ถ้าไม่เห็นพระอาทิตย์ตก จะคืนเงินให้ เอากับเค้าสิ
และแล้วตอนช่วงที่เราไปดูพระอาทิตย์ตก คือหมอกหนามากๆ จนไม่เห็นแสงเลย อยู่รอตรงนี้ตั้งนานแน่ะ
ถ้าใครซื้อทัวร์แบบนี้ แนะนำให้เดินขึ้นบันไดมาข้างบนนะ (ไม่ใช่ตรงส่วนที่เค้ายืนดูกันทั่วไป) ข้างบนวิวสวยกว่าเยอะเลย แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมทัวร์ไปพาขึ้นมาข้างบน
อากาศเย็นๆ ประมาณ 10 องศา แก้หนาวด้วยกันกินชาบูหม้อไฟดีกว่า ร้านนี้อยู่ใกล้ๆ ทางขึ้นไปสถานี Alishan จำชื่อร้านไม่ได้อะ มาทีไรก็ฝากท้องไว้ที่นี่ตลอด ไว้ใจได้ในเรื่องของรสชาติและปริมาณ กินคนเดียวก็ได้นะ เค้ามีแบบหม้อเดี่ยวด้วย หรือถ้าไปกันหลายๆ คน สั่งเป็นเซ็ต ที่มีทั้งหม้อไฟ และกับข้าวอีก 5-6 อย่างก็ได้
มาเริ่มต้นเที่ยวอาลีซานกันดีกว่า รายละเอียดต่างๆ จะใส่ไว้ในรูปนะคะ เผื่อใครจะเซฟไปใช้ จะได้สะดวกหน่อย
ถ้าไม่ได้แวะที่เฟิ่นฉี่หู เมื่อมาถึงอาลีซานในวันที่ 1 ตอนบ่ายอาจจะนั่งรถไฟโบราณไปเที่ยวในป่าสนสัก 1 เส้นทางก่อนเลยก็ได้ แล้ววันรุ่งขึ้นค่อยไปดูพระอาทิตย์ขึ้น และเดินเที่ยวอีก 1 เส้นทาง
หรือถ้าใครมาถึงเย็นๆ แบบเรา รวบยอดเที่ยวทีเดียวในวันที่ 2 ก็ได้เช่นกัน
วันนี้เรานัดกันตอนตี 5 เพื่อนั่งรถไฟโบราณขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ Zhushan และเราซื้อตั๋วรถไฟไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่ด้วยความขี้เกียจเดินขึ้นไปจนถึงสถานีข้างบน (คือเราต้องเดินขึ้นบันไดหลายต่อ และรู้สึกเหนื่อยมากสำหรับคนอายุเยอะ ^^) พอดีเห็นว่าตรง Alishan Visitor Center มีรถบัสไปส่งตรง Zhushan Station พอดี เลยเปลี่ยนใจเป็นซื้อตั๋วขึ้นรถบัสดีกว่า ค่าโดยสารคนละ NT$150
ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง พวกเราก็มาถึง Zhushan Viewing Point ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นยอดฮิตของอาลีซาน และยังเป็นจุดชมดาวในตอนกลางคืนด้วยนะ มีรถบัสโดยสารคอยให้บริการ
บนนี้พอมีร้านขายอาหารและเครื่องดื่มอยู่บ้าง เผื่อใครตื่นเช้าๆ แล้วหิว หรือเดินขึ้นเขามาเหนื่อย ฝากท้องไว้แถวนี้ได้
ถ้าใครยังมีแรงเหลือๆ แนะนำให้เดินขึ้นเขาต่อไปอีก 500 เมตร ไปจุดชมวิวอีกที่หนึ่ง คือ Mt.Ogasawara Viewing Lot – Xiao Li Yuan Shan (เสี่ยว ลี่ หยวน ซัน) ดีกว่า มีป้ายบอกทางด้วย แต่ต้องสังเกตนิดนึง ทางเดินดี ไม่ต้องกลัวอันตราย เพราะมีคนเดินขึ้นไปกันเยอะ
ถ้าเทียบกันระหว่าง Mt.Ogasawara Viewing Lot กับ Zhushan Viewing Point ส่วนตัวขอเทใจให้กับ Mt.Ogasawara Viewing Lot มากกว่า เพราะเราจะได้เห็นวิวในมุมที่สูงกว่า และเป็นลานกว้างๆ โล่งๆ ไม่ต้องแย่งจุดชมวิวกัน ถ้าวันอากาศดีๆ ฟ้าสวยๆ เราเชื่อว่าน่าจะได้รูปกันเยอะแน่ๆ
ดวงไม่ค่อยสมพงศ์กับการชมดอกไม้ กับพระอาทิตย์ขึ้นสักเท่าไหร่ ดูสิ ขนาดมาต้นเดือนธันวาคม คิดว่าฟ้าจะแจ่มๆ แล้วนะ ที่ไหนได้ เมฆหมอกปกคลุมจนพระอาทิตย์ไม่โผล่มาให้เห็นเลย
อาลีซานอากาศเย็นตลอดทั้งปี ข้างบนนี้อากาศเย็นมาก ตอนมาเที่ยวอย่าลืมเตรียมเสื้อกันหนาวมาด้วยนะ วันที่ไปอุณหภูมิประมาณ 10 องศา ทุกคนจะใส่อุปกรณ์กันหนาวกันอย่างจัดเต็มมาก อาจเป็นเพราะต้องมาขึ้นรถไฟกันตั้งแต่ตี 5 ที่อากาศยังเย็นๆ อยู่ด้วยมั้ง แต่พอสายๆ ก็เริ่มอุ่นแล้ว
แม้แต่หน้าร้อนตอนเดือนสิงหาคมที่เราไป ยังอากาศหนาวมาก และดันลืมพกเสื้อกันหนาวมาด้วย จนต้องไปขอเช่าเสื้อกันหนาวกับทางโรงแรม ตัวละ NT$100
ถ้าใครจะนั่งรถไฟจาก Duigaoyue Station กลับไปยัง Alishan Station อย่าลืมเช็กเวลาดีๆ นะ เพราะรถไฟไม่ได้มีตลอดทั้งวัน หรือถ้าใครถ่ายรูปเพลินๆ จะนั่งรถบัสกลับไปตรง Alishan Visitor Center ก็ได้ สะดวกมากๆ
ทางเราเลือกที่จะนั่งรถบัสกลับไปที่ Alishan Visitor Center รอแสง รอฟ้า เผื่อจะได้รูปสวยๆ กับเค้าบ้าง อีกอย่างภายในอุทยานเค้าจะใช้เป็นรถบัสไฟฟ้า เพื่อลดมลพิษทางอากาศ ทำให้ข้างบนนี้อากาศดีมากๆ อยากสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด ให้สมกับได้ขึ้นมาเที่ยวบนนี้ทั้งที
หลังกลับจากบนเขา พวกเราแวะกินข้าวกันแถวสถานี Alishan โดยใช้คูปองอาหารเช้าที่โรงแรมให้มา อาหารเป็นพวกข้าวต้มและกับข้าวง่ายๆ
เมื่อเช้าใช้เวลาในการชมพระอาทิตย์ขึ้นไปเยอะแล้ว ตอนนี้เราต้องทำเวลากันสักนิดนึง รีบกินข้าว อาบน้ำ เช็กเอาท์ออกจากโรงแรม (แต่ฝากกระเป๋าไว้ก่อน) แล้วมาขึ้นรถไฟโบราณที่ Alishan Station เพื่อเดินเล่นที่ Zhaoping Station
ใน Alishan Station มีล็อกเกอร์ฝากกระเป๋าด้วย เผื่อใครนั่งรถบัสมาจากไทเป หรือเช็กเอาท์ออกจากโรงแรมแล้วขี้เกียจกลับไปเอากระเป๋า ก็มาฝากไว้ที่ล็อกเกอร์นี้ได้
ตารางเวลารถไฟจาก Alishan Station ไป-กลับ Zhaoping Station และ Shenmu Station (Sacred Tree)
ต้องดูเวลารถไฟดีๆ นะ ถ้าเดินเพลินพลาดเที่ยวรถไฟแล้ว อาจจะต้องรอนานเลย และอาจะทำให้พลาดเที่ยวรถบัสที่จะลงจากอาลีซานไปเจียอี้ หรือไปซันมูนเลกอีก
ถ้าถามว่า มาเที่ยวอาลีซาน จำเป็นต้องนั่งรถไฟโบราณมั้ย จะบอกว่า มันเป็นไฮไลท์ของที่นี่เลยล่ะ ได้ชมวิวสวยๆ ข้างทาง บางช่วงเค้าก็จะเอารถไฟหัวจักรไอน้ำออกมาวิ่งด้วย (ไม่ได้มีทุกวัน) แต่ถ้าไม่สะดวก ก็ไม่เป็นไร นั่งรถบัสไฟฟ้า หรือเดินเที่ยว ก็ได้ชมวิวเหมือนกัน แต่แค่คนละอารมณ์เท่านั้นเอง
จาก Zhaoping Station เราเดินเลาะมาทางขวามือ และเดินเลียบทางรถไฟไปเรื่อยๆ จะเข้าสู่เส้นทางเดินป่าสนพันปีแล้ว เป็นทางเดินลง ทำให้เหนื่อยน้อยหน่อย และมีบันไดทำให้เดินสะดวก แต่ไม่แนะนำสำหรับพวกรถเข็นหรือวีลแชร์นะคะ เพราะทางเดินในป่า จะเป็นบันไดแบบนี้ไปตลอดทางเลย
บางคนอาจจะบอกว่า “ที่อาลีซานไม่เห็นมีอะไรเลย”
จริงค่ะ ไม่มีอะไรเลย นอกจากธรรมชาติที่ร่มรื่น
ถ้าคนที่เป็นสายเที่ยวธรรมชาติ เรารับรองว่า ทุกคนต้องประทับใจ ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ได้อยู่ท่ามกลางป่าไม้ แต่ก็ไม่ได้เที่ยวลำบากลำบนจนเกินไป
แต่ถ้าเป็นสายเที่ยวเมืองหรือชอปปิ้ง ต้องผิดหวังแน่ๆ ค่ะ เพราะมีแต่ป่า มีแต่ต้นไม้
ในละแวกนี้ เราจะเห็นต้นไม้สูงใหญ่แบบนี้ไม่ยากเลย มีเยอะแยะเต็มไปหมด ป่าไม้ของเค้าสมบูรณ์มากๆ
ไฮไลท์ของเส้นทาง Zhaoping คือ สระสองพี่น้อง หรือ Sisters Pond ตามตำนานเล่าไว้ว่า พี่น้องสองสาวเกิดรักหลงผู้ชายคนเดียวกัน และไม่อยากให้มีปัญหา จึงมากระโดดน้ำฆ่าตัวตายที่นี่
จาก Sisters Pond เดินไปที่ Shouzhen Temple อีกนิดนึง คือ Xianglin Service Area ตรงนี้มีร้านขายอาหารและเครื่องดื่มขายด้วย ถ้าใครมีเวลาเยอะหน่อย เดินสำรวจเส้นทางธรรมชาติต่อไปจนถึง Shenmu Station (Sacred Tree) เพื่อนั่งรถไฟโบราณกลับจากตรงนี้ก็ได้
แต่ถ้าใครสัมผัสธรรมชาติพอแล้ว จะเดินกลับไปขึ้นรถไฟโบราณที่ Zhaoping Station หรือนั่งรถบัสจากสถานี Xianglin Station กลับไปยัง Visitor Center ก็ได้ ส่วนเรา เลือกอย่างหลัง เพราะขี้เกียจเดินกลับแล้ว 🙂
สรุปง่ายๆ คือ
สำหรับคนที่มีเวลาน้อย แนะนำให้นั่งรถไฟจาก Alishan Station ไปที่ Zhaoping Station และเดินมาถึงสถานีรถบัส Xianglin Station แล้วขึ้นรถบัสกลับมาที่ Visitor Center
เดินเข้าประตูข้างหน้า เคาน์เตอร์ขายตั๋วอยู่ตรงมุมซ้ายมือ เป็นพนักงานของ 7-Eleven มาขายตั๋วให้เอง ถ้าเป็นหน้าเทศกาลหรือวันหยุด ควรมาซื้อตั๋วก่อนเวลาเดินทางนะคะ เพราะไม่รู้ว่ารถจะเต็มรึเปล่า ตอนเข้าแถวขึ้นรถ เค้าจะแบ่งเป็น 2 แถว คือ แถวสำหรับคนที่ซื้อตั๋วแล้ว กับแถวสำหรับคนที่ยังไม่ซื้อตั๋ว ถ้าไม่ซื้อตั๋วตรงนี้ จะใช้ EasyCard แตะบัตรจ่ายบนรถก็ได้
จบทริปเรานั่งรถไฟฟ้าจากสถานีรถไฟความเร็วสูง HSR Chiayi → HSR Taoyuan แล้วต่อรถไฟฟ้าสายเถาหยวน ขบวน Commuter train จากสถานี A18 Taoyuan HSR Station → A12 Taoyuan Airport Terminal 1 เพื่อขึ้นเครื่องบินกลับไทย
ยังดีว่า ThaiVietjet มีรอบบินไฟล์ท 2 ทุ่มกว่า ทำให้เราได้เที่ยวไต้หวันอีก 1 วันเต็มๆ แบบไม่ต้องเร่งรีบ
สรุปค่าใช้จ่ายในการเที่ยวอาลีซานมาให้ด้วยนะคะ เผื่อใช้ประกอบการตัดสินใจว่า ไปเที่ยวอาลีซานดีมั้ย บอกเลยว่ามาเที่ยวที่นี่ อย่างน้อยๆ ก็ต้องมี NT$2,000-3,000 ต่อคนเลย
บางคนมีเวลาแค่ 1 วัน แต่อยากมาเที่ยวที่นี่ ถ้าเงินกับเวลาไม่ใช่ปัญหา ก็ลุยโลด
แต่บางคนอยากให้คุ้มค่า คุ้มเวลา ก็ต้องมีเวลา 2 วัน 1 คืนเป็นอย่างน้อยนะคะ
แต่มีข้อแม้ว่า ต้องซื้อตั๋วแบบไป-กลับเท่านั้น (ขาเดียวไม่ได้) และต้องขึ้นรถบัสที่ TRA Chiayi หรือ HSR Chiayi
โดยมีค่าธรรมเนียมใบละ NT$10 ค่าธรรมเนียมสำหรับตั๋วไป-กลับ เท่ากับ NT$20
นอกจากนี้ยังซื้อตั๋วรถบัส Chiayi – Alishan และค่าเข้าอาลีซานได้ที่ KKday และ Klook ด้วย
แต่การซื้อตั๋วรถบัสล่วงหน้านี้ ไม่สามารถระบุที่นั่งได้ และต้องซื้อตั๋วแบบไป-กลับเท่านั้น
KKday : http://bit.ly/3lefOCQ
Klook : http://bit.ly/3mKNKrb
ตั้งแต่วันที่ 6/7/24 เป็นต้นไป
‼️‼️‼️ รถไฟสาย Alishan Forest Railway กลับมาให้บริการในเส้นทางจาก Chiayi Station ถึง Alishan Station อีกครั้ง หลังจากปิดซ่อมไปตั้งแต่ปี 2009 โน้นแน่ะ สามารถจองตั๋วทางออนไลน์ ได้ล่วงหน้า 14 วันก่อนเดินทาง ที่ลิงก์นี้ >>> https://afrts.forest.gov.tw/OT01_1.aspx
ค่าโดยสาร NT$600 / เที่ยว
ตารางเวลาเดินรถไฟสาย Alishan Forest Railway
– ขาขึ้น
1. 09.00 น. Chiayi Station → 12.00 น. Shizilu Station
2. 10.00 น. Chiayi Station → 14.56 น. Alishan Station (หยุดพักที่ Fenchihu Station 1 ชม.)
– ขาลง
3. 11.50 น. Alishan Station → 15.45 น. Chiayi Station
4. 14.00 น. Shizilu Station → 16.55 น. Chiayi Station
แล้วพบกันใหม่กับการเดินทางสะสมไมล์ต่อไปของเรานะคะ
..หนึ่งพันไมล์..
2023.01.24