“อยากเที่ยวตามเส้นทางรถไฟของไต้หวัน ต้องทำยังไง“
“จองตั๋วรถไฟไต้หวันล่วงหน้าทางออนไลน์ ต้องทำยังไง“
“จองตั๋วรถไฟไต้หวันได้แล้ว จะจ่ายเงิน ต้องทำยังไง“
“ไปถึงไต้หวันแล้ว จะรับตั๋วรถไฟที่จองเอาไว้ ต้องทำยังไง“
คำถามพวกนี้วนเวียนมาให้ได้ยินตลอด
รีวิวนี้จะมาตอบทุกคำถามข้างต้นให้ได้กระจ่างชัดกันค่ะ
ไต้หวัน จัดได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีการคมนาคมสะดวกและปลอดภัย
มีเส้นทางรถไฟ (TRA – Taiwan Railways Administration)
เชื่อมโยงไปทั่วทั้งเกาะ (ตามรูป)
มีรถไฟความเร็วสูง (HSR) ตั้งแต่เหนือจรดใต้ทางฝั่งตะวันตกของเกาะไต้หวัน
หากต้องการจองตั๋วรถไฟ (TRA) เที่ยวไต้หวัน ต้องที่เว็บนี้เท่านั้น!!!
อย่า จำสับสนระหว่างรถไฟธรรมดา (TRA) และรถไฟความเร็วสูง (HSR) นะคะ
เพราะเป็นคนละเว็บไซด์กัน ในส่วนนี้เราขอพูดถึงแต่รถไฟธรรมดาค่ะ
ในช่องแรก Area/Subline คือ เมืองหรือเส้นทางย่อย
มีทั้งหมด 19 ที่ คือ
Changhua / Chiayi / Hsinchu / Hualien / Jiji Line / Kaohsiung / Miaoli /
Nantou / Neiwan Line / Pingshi Line / Pingtung / Shalun Line /
Taichung / Tainan / Taipei / Taitung / Taoyuan / Yilan / Yunlin
สรุปย่อๆ เมืองยอดฮิตของนักท่องเที่ยวชาวไทย
Chiayi ต่อไปอาหลีซัน (Alishan) / Hualien ต่อไปทาโรโกะ (Taroko) /
Kaohsiung เมืองเกาสง / Pingshi Line (เส้นทางรถไฟสายผิงซี) /
Taichung เมืองไถจง และต่อไปซันมูนเลค (Sun Moon Lake) /
Tainan เมืองไถหนัน / Taipei ไทเป เมืองเริ่มต้นเส้นทางของหลายๆ คน
ในช่องที่ 2 Station คือสถานีของเมืองนั้นๆ ที่เราจะเดินทาง
ใน 1 เมืองมีหลายสถานี อย่าลืมเลือกให้ถูกสถานีที่เราต้องการด้วย
สมมติว่าเราออกเดินทางจาก ไทเป (Taipei)
From : Area ให้เลือก “Taipei” / Station ก็เลือก “Taipei” เหมือนกัน
To : Area ให้เลือก “Hualien” / Station ก็เลือก “Hualien” เหมือนกัน
When : เลือก “วันที่ที่เราจะเดินทาง”
ถ้าไม่ต้องการระบุเวลา ก็ปล่อยให้เป็น 00.00 และ 23.59
ระบบจะแสดงขบวนรถไฟทั้งหมดที่มีวิ่งในวันนั้นๆ
แต่ถ้าเราต้องการระบุเวลาเริ่มต้น หรือไปถึงปลายทาง ก็ใส่เวลาเข้าไปได้
เช่น อยากให้ไปถึง Hualien ก่อน 10 โมงเช้า ก็ใส่ “10.00” เข้าไป
Vehicles : ส่วนใหญ่เราจะเลือก “All Types” คือ ทุกขบวน ทุกประเภท
จากนั้นกดคำว่า “GO”
จะปรากฎตารางเวลาของขบวนรถไฟในเส้นทางตามวันและเวลาที่เราเลือก
ตรงส่วนของตารางเวลาที่ปรากฏขึ้นมานั้น
ว่าสถานีนั้นๆ ตรงกับที่เราเลือกไว้หรือไม่
และเวลาที่รถไฟออกจากต้นทางและถึงปลายทาง
อันนี้เพียงบอกต้นทางและปลายทางของรถไฟขบวนนั้นๆ
สังเกตว่ามีหลากหลายมาก ตั้งแต่น้อยสุด คือ 2 ชั่วโมง ไปจนถึง 10.5 ชั่วโมงเลย
แล้วแต่ว่าขบวนนั้นผ่านเส้นทางไหน และจำนวนสถานีที่จอดรับผู้โดยสาร
ส่วนใหญ่เราจะดูที่ระยะเวลาตรงนี้และค่าโดยสารเป็นหลัก
ถ้าอยากขึ้น “รถไฟขบวน Puyama” ซึ่งจะใช้เวลาเดินทางน้อยหน่อย
ก็ดูตรงช่อง “Train Type” ที่จะมีวงเล็บไว้ข้างหลัง
ในหน้านี้เราต้องใส่จำนวนผู้โดยสาร หรือจำนวนตั๋วที่จะจองลงไป
ในช่อง “Number of Passengers”
จากนั้นใส่เลขที่พาสปอร์ต ซึ่งต้องเป็นพาสปอร์ตของคนที่เดินทาง
(คนใดคนหนึ่งในกรณีที่ไปกันหลายคน)
และใส่ตัวเลขที่เห็นลงในช่อง “Random Number”
ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องอีกครั้ง
แล้วกด “Start to Order”
ถ้าการจองนั้นสำเร็จ จะขึ้นว่า “Booking Sucess!”
ตรวจทานข้อมูลอีกรอบว่า สถานีต้นทาง สถานีปลายทาง วันที่เดินทาง
ขบวนรถไฟ จำนวนผู้โดยสาร เลขที่พาสปอร์ต ถูกต้องมั้ย
ตรงนี้คือรหัสการจองที่เราต้องใช้เวลาจะจ่ายเงิน
ควรจดใส่กระดาษหรือแคปเจอร์หน้าจอตรงนี้ไว้ด้วย กันพลาดๆ
จองเสร็จแล้วจะจ่ายเงินเลย ก็ได้ กด “Online Payment”
หรือยังไม่แน่ใจ แผนอาจเปลี่ยน กลับมาจ่ายทีหลังแล้วกัน
ไม่ใช่ว่าจะจองสำเร็จ หรือได้ตั๋วทุกครั้งไป
หากวันนั้นเกิดตั๋วเต็ม ตั๋วหมด ไม่มีตั๋ว
จะมีคำว่า “Booking Fail!” ขึ้นมาให้ตกใจเล็กน้อย
เพราะจะมีการตัดระบบทุกๆ เที่ยงคืน
บางครั้งคนที่จองไว้เกิดเปลี่ยนใจ หรือไม่ได้จ่ายเงิน
ก็อาจมีที่นั่งหลุดมาถึงเราได้
เช่น จากไทเป (Taipei) ไปอุทยานแห่งชาติทาโรโกะ (Taroko)
วิธีปกติคือ เลือกต้นทางที่ Taipei และปลายทางที่ Hualien
แต่ในกรณีที่จองแบบนี้ไม่ได้ ให้แยกออกเป็น 2 ช่วงคือ
(เมืองที่ 2 จะไปลงระหว่างทางที่สถานีไหนก็ได้
แต่ควรเป็นเมืองใหญ่สักนิด เพราะจะมีอัตราคนใช้บริการสูง)
หากเดินทาง ภายใน 2 วัน นับจากการจอง
ต้องจ่ายเงิน ภายใน 1 วัน (24 ชม.)
หากเดินทาง หลัง 2 วัน นับจากการจอง
สามารถจ่ายได้ ภายใน 2 วัน
หากไม่ได้จ่ายเงินทันทีที่จองตั๋วเรียบร้อย ให้เข้ามาที่เว็บไซด์นี้อีกครั้ง
ด้านบนเลือก “Ticket” ด้านข้างเลือก “Online Payment”
เมื่อเข้ามาแล้ว จะมี pop up ขึ้นเตือนให้อ่านเงื่อนไขสำหรับในการจ่ายเงิน
สรุปย่อๆ คือ
1. ถ้าซื้อตั๋วแบบไปกลับจะได้รับส่วนลดพิเศษ แต่ต้องไปรับตั๋วที่สถานีเท่านั้น
2. ต้องจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตหรือเงินสด อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
3. เพื่อป้องกันความผิดพลาด หลังจากทำการจ่ายเงินแล้ว
ให้เข้า Official Website เพื่อตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง
4. ตั้งแต่วันที่ 4/12/12 เป็นต้นไป ระบบการชำระเงินผ่านทางออนไลน์
จะทำการตัดทุกๆ เที่ยงคืน
แต่ถ้าจะให้ชัวร์ ควรจ่ายเงินก่อนเที่ยงคืนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง
อ่านเข้าใจแล้ว ก็กด “Close” (ตัวเล็กๆ ตรงมุมขวามือ) ไปซะ
มีหน้าเงื่อนไขให้อ่านอีกนิดนึง
อย่าลืมติีก “เครื่องหมายถูก” เพื่อที่จะเข้าสู่ระบบการจ่ายเงินอย่างแท้จริง
“Start buying a ticket”
สำหรับผู้สูงวัย อายุ 65 ปี จะได้ราคาผู้สูงอายุเฉพาะคนไต้หวันเท่านั้น
คนชาติอื่นไม่ได้จ้า
สำหรับพวกเราคนต่างชาติ ให้ติ๊กตรงช่อง “Check if you are a foreigner”
“ID No.” ใส่เลขที่พาสปอร์ต ***ต้องเป็นของคนที่จะเดินทาง
และหมายเลขการจอง “Booking Code”
ตรงนี้ล่ะที่บอกว่าสำคัญ ที่เคยบอกว่า ต้องจดหรือแคปหน้าจอเอาไว้
ถ้าไม่มีก็จ่ายเงินไม่ได้นะ
“Submit” ต่อเลย
อย่าลืม!!! ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล
หมายเลขพาสปอร์ต รหัสการจอง หมายเลขรถไฟ เวลาเดินทาง จำนวนตั๋ว
ก่อนที่จะกด “Confirm” อีกครั้ง
เพื่อความปลอดภัย และป้องกันการผิดพลาด
ระบบจะให้เราตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้ง (แหม…หลายครั้งเหลือเกิน)
ถ้าชัวร์แล้ว ก็กด “Confirm” ได้
มาถึงคราวที่ต้องจ่ายเงินจริงๆ แล้ว
ใส่หมายเลขบัตรเครดิต และรหัสหลังบัตรเหมือนระบบการจ่ายเงินทั่วไปเลย
เราไม่ได้ใช้ National Travel Card ให้ติ๊กตรงช่อง “No”
และกด “Confirm Payment” เพื่อจะได้จ่ายเงินซะที
หากการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตทางออนไลน์สำเร็จ
ระบบจะขึ้นหน้าใหม่มาให้ สังเกตตรงมุมซ้ายมือมีคำว่า
“Successful Credit Payment”
“Print this page” สั่งพิมพ์ออกมาเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน
และนำไปรับตั๋วที่สถานีด้วย
หน้าตาของใบที่จะเอาไปรับตั๋วเป็นแบบนี้
17/9/15 เราไปถึง Taipei Main Station ตั้งแต่ตีห้านิดๆ เร็วกว่าแผนที่วางไว้
ก็เลยเอาใบรับตั๋วรถไฟมาเปลี่ยนรอบรถที่เคาน์เตอร์ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
และหาอะไรรองท้องสักนิดก่อนจะไปตะลุยเมืองไถตงต่อ
หากเกรงว่าจะมารับตั๋วที่สถานีก่อนออกเดินทาง 30 นาทีไม่ทัน
ไปรับตั๋วผ่านตู้อัตโนมัติที่ร้านสะดวกซื้อ
7-Eleven , Family Mart , Hi-Life , OK ก็ได้
มีค่าธรรมเนียมใบละ 8 NT
จะได้ตั๋วรถไฟหน้าตาแบบนี้ ซึ่งสามารถเอาไปขึ้นรถไฟได้เลย
สำหรับรถไฟที่มุ่งหน้าสู่ทางตะวันออก (Eastern Line) อยู่ชานชาลาที่ 4
พอลงไปแล้ว ก็จะมีแยก 2 ด้าน ซ้าย-ขวาอีก
จะรู้ได้ยังไงว่าเป็น 4A หรือ 4B ก็มาดูที่จอนี้ล่ะ
มีทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษ
เพื่อให้แม่นยำเทียบตัวเลขขบวนรถปลอดภัยที่สุด
ดูตั๋วด้วยนะว่า ที่นั่งของเราอยู่ตู้ (Car) ที่เท่าไหร่
จะมีป้ายตัวเลขบอกที่รอรถไฟอยู่ ไปยืนรอให้ตรงจุด
พอรถไฟมาจะได้ขึ้นรถไปหาที่นั่งได้เลย
บนรถไฟ (TRA) ของไต้หวัน เอาอาหารและเครื่องดื่มขึ้นมากินได้
บางขบวนจะมีเจ้าหน้าที่มาเข็นขายอาหารด้วย ไม่ต้องทนหิวนะคะ
นั่งเพลินๆ หลับสบายๆ วิวระหว่างทางสวยมาก
แป๊บเดียวก็มาถึงจุดหมายปลายทางแล้ว เตรียมตัวตะลุยเที่ยวต่อได้เลย
เป็นยังไงบ้างคะ
การจองตั๋วรถไฟไต้หวันผ่านทางออนไลน์ ไม่ใช่เรื่องยาก
แบบที่เราบอกจริงมั้ย???
เราเองก็ลองผิดมาเยอะกว่าจะจับจุดได้ ก็เลยมาทำรีวิวตอนนี้ให้ได้ชมกันค่ะ ^^
หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามกันได้ที่แฟนเพจ
https://www.facebook.com/1000MilesJourney
หรือ Line Official : @1000MilesJourney ค่ะ
แล้วพบกันใหม่กับการเดินทางสะสมไมล์ต่อไปของเรานะคะ
..หนึ่งพันไมล์..
2015.10.14